posttoday

"ปุ่น"กะ"โอ๊ค"กับปรากฏการณ์พานทองแท้

17 มีนาคม 2556

ไขข้องใจเบื้องหลังเฟซบุ๊ก "พานทองแท้" ที่มีชื่อ "น.ต.ศิธา ทิวารี" ปรากฎเป็นหนึ่งในทีมงาน

โดย...ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว

ถูกพาดพิงเป็นหนึ่งในทีมงานเฟซบุ๊กพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกฯ ทักษิณ คอยทำหน้าที่ป้อนข้อมูล หนักไปกว่านั้นเป็นคนโพสต์ข้อความแทนโอ๊ค จึงเป็นโอกาสที่ "ผู้พันปุ่น" น.ต.ศิธา ทิวารี ได้ชี้แจง

“ผมไม่ได้อยู่ในทีมงาน แต่ถามว่าแล้วเป็นอะไร ให้คำปรึกษาบ้าง เช่น เรื่องมุมข่าวเรื่องนั้นเรื่องนี้ควรจะพูดไม่พูดอย่างไร เพราะผมมีมุมมองบางอย่างต่างจากนักการเมืองส่วนใหญ่ บางเรื่องมองว่าไม่จำเป็นต้องโต้ก็จบ บางเรื่องเขากล่าวหาแม้เป็นความจริง ถ้าเราไม่โต้ก็จบ”

แม้ น.ต.ศิธา ยืนยันไม่ได้อยู่ในทีมงาน แต่บ่งบอกว่านี่แหละคือกุนซือคนสำคัญ

“โอ๊คจะถามว่าเล่นเรื่องนั้นเรื่องนี้นะ ผมจะแนะนำคุณเล่นได้ แต่คุณต้องเตรียมไปตอบประเด็นนี้ด้วย บางเรื่องเขาจะถาม ผมบอกจะเสี่ยงโดนฟ้อง คุณลองดู หรือบางอย่างเขียนถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้าลึกๆ เขาพร้อมที่จะเชียร์เรา แต่เขียนไปสองแง่สองง่ามจะผลักจากมิตรเป็นศัตรู”

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ปุ่นกะโอ๊ค” เริ่มต้นนับตั้งแต่ น.ต.ศิธา กระโดดเข้ามาทำงานการเมืองในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ จึงได้รู้จักบุตรชายอดีตนายกฯ กระทั่งช่วงเว้นวรรคทางการเมือง นอกจากมีเวลาว่างทำธุรกิจครอบครัว ยังได้ร่วมหุ้นส่วนทางธุรกิจมือถือกับพานทองแท้ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสื่อและการเมืองมากขึ้น ก่อเกิดสัมพันธ์ “เพื่อนต่างวัย”

“โอ๊คเก่ง เขาได้จากพ่อมาเยอะ ผมเคยไปทานข้าวเจอคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์หลายคน บางคนอาจจะเขียนข่าวถึงอดีตนายกฯ ไม่เป็นบวก พอคุยกับโอ๊ค เขาบอกทันที ไม่นึกเลยว่าเป็นเด็กที่มีลักษณะนิสัยดี ถ้าไปคุยจะรู้ หัวไวมาก” เพื่อนต่างวัยวิจารณ์

แม้ไม่ได้เป็นทีมงานอย่างเป็นทางการ แต่ น.ต.ศิธา รับรู้โครงสร้างการทำงานเฟซบุ๊กพานทองแท้เป็นอย่างดี

“วอร์รูมเฟซบุ๊กทำเหมือนโต๊ะข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หรือทีวี กองบรรณาธิการไม่ใหญ่โต ใช้สถานที่วอยซ์ทีวี เพราะโอ๊คบริหารที่นั่น มีทีมงานนั่งอยู่ในกอง 6-7 คน อีกส่วนมาจากเครือข่ายสนับสนุนพรรคเพื่อไทยซึ่งอยู่ในสังคมออนไลน์ ประมาณ 10 คน ติดต่อเข้ามา จากนั้นทีมงานภายในจะเข้าไปพูดคุยทำการสกรีน โดยทุกเช้าโอ๊คจะประชุมสรุปประเด็นนำขึ้นจอว่ามีอะไรบ้าง เพื่อพิจารณาว่าจะเล่นประเด็นไหน จากนั้นจึงนำไปเขียนลงเฟซบุ๊ก”

“ที่มีการพูดกันว่านักข่าวแก่ๆ เป็นคนเขียน ไม่ใช่เลย เขาเขียนเขาเอง หรือที่บอกว่ามีทีมงานนักข่าวแก่ๆ ช่วยโอ๊ค ลองมานั่งสิ เรียกป้าหมด แก่กว่าโอ๊ค 20 กว่าปียังมี” น.ต.ศิธา เล่าไปหัวเราะไป

กุนซือขมองอิ่มให้เหตุผลที่ทำให้พานทองแท้มีความสามารถตอบโต้การเมือง ว่า “โอ๊คมีคุณสมบัติด้านบริหารจัดการ ขณะเดียวกันการเมืองเล่นงานเขา บีบบังคับให้ต้องมาสนใจการเมือง ทั้งที่ยืนยันอยู่แล้วไม่เล่นการเมือง ไม่เป็น สส. อีกทั้งเป็นผู้บริหารวอยซ์ทีวีได้คุยกับปลื้ม (ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ดำเนินรายการวอยซ์ทีวี) ทำให้ได้ประเด็นการเมือง อย่างมากก็มาถามผมว่า พี่ๆ ผมเล่นประเด็นนี้ดีไหม บางช่วงโอ๊คขี้เกียจเขียน หายไปบ้าง ช่วงไหนมันส์ๆ ก็เขียนวันละ 2 เรื่องบ้าง ซึ่งเป็นการคลายข้อสงสัยในแวดวงสื่อ เพราะถ้าให้คนอื่นเขียน มันจะต้องเป็นรูทีน เขียนทุกวัน”

น.ต.ศิธา เล่าต่อไปว่า ถ้าอ่านข้อความเขาทั้งหมด จะรู้ว่าจริงๆ พานทองแท้เป็นคนตลก พูดกวนเป็นกิจวัตร เล่นมุขติดเป็นนิสัย เขาจะสนุกมากเวลาคุยกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ ณัฐวุฒิ มีมุขเยอะ
ได้ที น.ต.ศิธา เผยมุขขันบุตรชายอดีตนายกฯ มาเล่าให้ฟัง “มีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังออกกำลังกาย พานทองแท้โทรเข้ามาถาม กำลังทำอะไร เสียงหอบๆ ผมตอบไปว่ากำลังตรวจร่างกายวิ่งสายพาน โอ๊คสวนกลับ พี่เลิกเหอะวิ่งสายพาน ผมก็งงๆ สิ ทำไมให้เลิกวิ่งสายพาน ก่อนที่โอ๊คเฉลยมุขว่า วิ่งสายพานทองแท้มันไม่รุ่งหรอก เจ๊งทุกราย ไปวิ่งสายอื่นเหอะ เรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังก็หัวเราะ อะไรของมันวะ โอ๊คคุยกับสื่อก็อย่างนี้”

หากให้เปรียบพานทองแท้ในสังคมโซเชียลมีเดียควรจะเป็นอะไรดี เจ้าตัวยกคำจากสื่อสิ่งพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษขึ้นมาว่า เขาเคยเปรียบโอ๊คให้เป็นฟีโนมินอล (Phenomenal) ทางโลกออนไลน์ หรือเป็นปรากฏการณ์พานทองแท้ โอ๊ครู้ตัวว่าถ้าเขียนเรื่องสัพเพเหระในเฟซบุ๊กก็เป็นอีกแบบ แต่นี่เขาทำเหมือนคอลัมนิสต์คนหนึ่ง เขียนปุ๊บสื่อนำไปลง ถ้าคนดูรายละเอียดหาดูในนี้ ขณะเดียวกันสื่อสามารถตัดทอนลงได้

ปรากฏการณ์พานทองแท้ไม่หยุดเพียงแค่นี้ เมื่อผู้พันปุ่น เผยว่า เฟซบุ๊กพานทองแท้จะพัฒนาการต่อไปด้วยการรวบรวมข้อเขียนลงพ็อกเกตบุ๊ก เร็วๆ นี้คงได้เห็นผลงาน