posttoday

ฆ่าทหาร-ปล่อยคลิป"เป้าจริง"กดดันเด้งมทภ.4

30 กรกฎาคม 2555

หน่วยข่าวกรองยืนยันตรงกันว่า เจตนาของผู้ก่อเหตุรุนแรงมีเป้าหมายอยู่ที่การกดดันให้ย้ายแม่ทัพภาคที่ 4 ออกจากพื้นที่

หน่วยข่าวกรองยืนยันตรงกันว่า เจตนาของผู้ก่อเหตุรุนแรงมีเป้าหมายอยู่ที่การกดดันให้ย้ายแม่ทัพภาคที่ 4 ออกจากพื้นที่

ฆ่าทหาร-ปล่อยคลิป"เป้าจริง"กดดันเด้งมทภ.4

ก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน หน่วยข่าวกรองความมั่นคง แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงการเตรียมก่อเหตุรุนแรง ของ RKK ว่าจะลงมือช่วง เดือนรอมฎอนซึ่งปีนี้เริ่มต้นวันที่ 20 ก.ค. เป็นวันถือศีลอด และต่อเนื่องถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งมีวันสำคัญ ที่ผู้ก่อความรุนแรงมักใช้เป็นสัญลักษณ์ของการก่อเหตุรุนแรง คือวันที่ 13 สิงหาคม เป็นวันรำลึกถึงการเสียชีวิตของนายหะยีสุหลง บินอับดุลกอเดร์ และวันที่ 31 เป็นวันก่อตั้งขบวนการแบ่งแยกดินแดน หรือวันประกาศเจตนารมณ์แกนนำของกลุ่มขบวนการเบอร์ซาตู

กระนั้นการก่อเหตุรุนแรง ก็ยังเกิดขึ้น และแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะเดินลงไปติดตามงานอย่างใกล้ชิด ในวันที่ 24 ก.ค.

20 ก.ค.เกิดเหตุคาร์บอมบ์ หน้าร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ร้านค้าถูกไฟไหม้

25 ก.ค. คนร้าย กดระเบิดคาร์บอมบ์ ในท้องที่ อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของสถานียุทธศาสตร์วังพญา สภ.ท่าธง อ.รามัน เสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย

26 ก.ค.- 27 คนร้าย ยิงชาวบ้าน อีกหลายเหตุการณ์ ในพื้นที่ อ.บันนังสตา,อ.ยะหา จ.ยะลา, อ.เมืองนราธิวาส, อ.โคกโพธ์ ปัตตานี มีทั้งบาดเจ็บแลเสียชีวิต รวมทั้งมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4111 กรมทหารพรานที่ 41 ที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเสียชีวิติ 1 คนและบาดเจ็บสาหัส 1 คน และกองร้อยทหารพรานที่ 4902 (ร้อย.ทพ.4902) จำนวน 10 นาย ยิงปะทะกลุ่มติดอาวุธ 3-4 คน นาน 10 นาที ที่บ้านเปาะรามะ ม. 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

ส่วนที่ปัตตานี คนร้ายลอบเผากล้องวงจรปิด อีก 7 ตัว ที่บริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลหนองจิก หน้าปั๊มน้ำมันซัสโก้และหน้าสำนักงานเกษตรอำเภอหนองจิก

28 ก.ค.2555 คนร้าย ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15322 (ร้อย.ร.15321) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 จนเกิดการยิงปะทะกันนานหลายนาที บนทางหลวงหมายเลข 4061 มายอ–ปาลัส ท้องที่บ้านดูวา หมู่ 3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี ทำให้ฝ่ายทหารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 นาย และได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

ล่าสุด 19.45 เกิดเหตุวางระเบิด ฝั่งตรงข้ามโชว์รูมรถฮีโน   ถนนสิโรรส ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา เป้าหมายสังหารชุดลาดตระเวน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนบาดเจ็บ 4 นาย 

ฆ่าทหาร-ปล่อยคลิป"เป้าจริง"กดดันเด้งมทภ.4

แน่นอน การก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน ผู้ก่อความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ย่อมมีเป้าหมาย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะความเสียหาย ในชีวิตและทรัพย์สิน เท่านั้น หากย่อมต้องเล็งถึง ผลสะเทือน  ต่อเนื่อง ไปยังเป้าหมาย อื่น

คำถาม ก็คือ เป้าหมาย ของผู้ก่อเหตุรุนแรง คืออะไร หรือคือใคร?

แหล่งข่าวจาก หน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า ทุกครั้ง ที่ RKK ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ล้วนมีเป้าหมาย อยู่ 3 ด้าน

เป้าหมายหนึ่งคือ กำจัด ฝ่ายตรงข้าม คือ กำลังเจ้าหน้าที่ ให้ได้มากที่สุด

เป้าหมายหนึ่ง คือ ข่มขู่ สกัดกั้น แนวร่วมและมวลชน ให้หวาดกลัว ไม่ให้เปลี่ยนไปสนับสนุนฝ่ายรัฐ และยังรักษาแนวร่วมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไว้ให้แน่นหนา

เป้าหมายหนึ่ง คือ ชิงพื้นที่ข่าว

แต่การก่อเหตุ ในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ยังดำเนินอยู่ในขณะนี้ กลับมีเป้าหมายปลายทาง ที่สำคัญ

นั่นคือ การกดดันให้มีการโยกย้าย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ออกจากพื้นที่ โดยใช้ กลยุทธ์ สร้างภาพที่น่ากลัว ให้เกิดภาพข่าว สะเทือนในวงกว้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์ วันที่ 28 ก.ค. ที่คนร้าย ยิงถล่มทหาร ขณะขี่จักรยานยนต์  บนทางหลวงหมายเลข 4061 มายอ–ปาลัส ท้องที่บ้านดูวา หมู่ 3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 2 นาย และยึดอาวุธปืนไปด้วย 

"ดูเหมือนเขาตั้งใจ ที่จะให้เห็น และให้มีการบันทึก การปฏิบัติก่อความรุนแรงของพวกเขา เพราะพวกเขาก็รู้ว่า มีกล้องซีซีทีวี อยู่ใกล้ ๆ ขณะที่ปฏิบัติการ ครั้งก่อน ๆ เขาจะมุ่งทำลายกล้องวงจรปิด และพยายามจะปิดบัง ไม่ให้เห็นโฉมหน้า การลงมือ แต่ครั้งนี้ เชื่อว่าเขาจงใจ ซึ่งแม้ว่า ผลที่ตามมา RKK หลายอาจถูกจับได้ เพราะเห็นหน้าเห็นตาชัดเจน แต่หากประเมินความคุ้ม กับการแลกระหว่าง RKK กับ แม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบัน ที่จะโดนย้าย ผมว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม" เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงรายหนึ่งวิเคราะห์

การประเมินของเขามีน้ำหนัก และสอดคล้อง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะเพียงไม่นานหลังจากนั้น คลิปจากกล้องวงจรปิด ก็ถูกนำออกเผยแพร่ผ่าน สื่อ ทั้งโซเชียล มีเดีย และสื่อทีวี กระทั่งกระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่หน่วยงานความมั่นคง กำลังค้นหา ก็คือ ใครเป็นมือดี นำคลิปจากกล้องวงจรปิดออกเผยแพร่ เพราะกล้องวงจรปิด บริเวณนั้น อยู่ในความรับผิดชอบ ของฝ่ายรัฐ ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ 

"อาจเป็นได้ เป็นฝีมือของแนวร่วม แต่เรายังเช็กไม่ออก ว่าใคร แต่คิดว่า เป็นไปได้ ทั้ง 2 กรณี คือ เอาออกไป โดยคาดไม่ถึงผลสะเทือน หรือ เป็นฝีมือของแนวร่วมจริง ๆ ซึ่งเราต้องสืบสาวต่อไป" เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 รายหนึ่ง อธิบาย

ฆ่าทหาร-ปล่อยคลิป"เป้าจริง"กดดันเด้งมทภ.4 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4

อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองยืนยัน ตรงกันว่า เจตนาของผู้ก่อเหตุรุนแรง ต้องการให้เกิดภาพ และกระจายคลิปนี้ออกสู่สาธารณะ โดยมีเป้าหมาย อยู่ที่การกดดันให้ย้าย พล.อ.อุดมชัย แม่ทัพภาคที่ 4 ออกจากพื้นที่อย่างแน่นอน

เหตุผลสำคัญ มาจาก การปฏิบัติการในช่วงก่อนหน้านี้ ของฝ่ายทหาร ที่แม่ทัพภาคที่ 4 กำกับนั้น มี ดึงกลุ่ม RKK ออกจากป่า ออกจากฝ่ายผู้ก่อเหตุ ได้มากกว่า 300 คน ซึ่งส่งผลสะเทือน ต่อจำนวน RKK ระดับแกนนำ และระดับปฏิบัติการ มากขึ้น

ที่สำคัญ ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ถูกสะกัดกั้น จากการปราบหนัก ในด้านทุน ที่ส่วนหนึ่งต่อท่อมาจากการค้ายาเสพติด และน้ำมันเถื่อน รวมทั้ง ฝ่ายทหาร รู้โครงสร้าง และรายชื่อระดับแกนนำ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทั้งหมดแล้ว หลังจากแกะรอยอยู่นานถึง 7 ปี

ขณะที่การผนึกงานด้านการเมืองนำการทหาร ระหว่างกองทัพกับศอ.บต. ทำให้มวลชนหันมาสนับสนุนภาครัฐมากขึ้น วัดผลได้จากการแจ้งเบาะแสะ และข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

เพียงแต่ ช่องว่าง และช่องโหว่ ของทหาร ที่ปฏิบัติการในพื้นที่ ร่วม 60,000 คน ก็ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะความชำนาญในพื้นที่ ที่แม้พล.ท.อุดมชัย จะหันมาเน้นการใช้ทหารพราน ซึ่งมีความชำนาญในพื้นที่มากขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลา

สำหรับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ถือเป็น นายทหารที่รู้สถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ มากที่สุดคนหนึ่ง เพราะขลุกอยู่กับภาคใต้นานกว่า 30 ปี และในเดือนตุลาคม นี้ จะอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ครบ 2 ปี ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าเขาอาจถูกย้ายเพื่อขยับขึ้นไปกินอัตราพล.อ. เพราอายุราชการยังเหลืออีก 1 ปี แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สรุป เพราะหาคนที่เหมาะสม มาเปลี่ยนได้ยาก