ปาบึ้มหลังเวที พธม.เจ็บ 3ราย

คนร้ายชุดดำปาระเบิดหลังเวทีพันธมิตรเจ็บ 3 ราย พล.ต.จำลองโวย ตำรวจไม่ดูแล ขณะที่ ผบช.น. เผยตรวจสอบพบเป็นระเบิดเพลิง แต่ไม่สามารถทำอันตรายแก่ชีวิต

เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (31 พ.ค.) ได้เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่หลังเวทีพันธมิตร โดยที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานมัฆวานรังสรรค์ห่างจากเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประมาณ 10 เมตร บริเวณดังกล่าวพบรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ไม่ทราบรุ่น หมายเลขทะเบียน วขย 568 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพเบาะรถได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ใกล้กันพบรถเข็นไอศครีมจอดอยู่ในสภาพได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายหนูปัน ภูทองเงิน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมุ่ 5 ต.อุบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุบลราชธานี คนขายไอศครีมได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกขาขวาแตกและเสียเลือดมาก รายที่สองคือนายไพฑูรย์ วิเศษศรี อายุ 57 ปี ทั้ง 2 ราย ถูกนำตัวส่งรพ.วชิระ ส่วนรายสุดท้ายบาดเจ็บเล็กน้อย โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกระเดื่องระเบิดชนิดขว้าง 1 อัน จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

นายปราการ ประสพโชค อายุ 28 ปี เจ้าของรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่าที่ถูกระเบิดได้รับความเสียหาย กล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนเคยเดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย กระทั่งวันนี้ตนเห็นว่าคนไม่มากและอยากมาร่วมชุมนุมอีกจึงขี่รถจยย.คันดังกล่าวออกมาจากบ้านพัก หลังจากที่เข้ามาจอดรถได้แบะเดินเข้าไปในพื้นที่การชุมนุมได้ประมาณ 15 นาทีก็ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดจึงรีบวิ่งออกมาดู เมื่อมาถึงก็พบว่ารถของตนได้รับความเสียหายไปแล้ว ทั้งนี้ตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนตนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน

พยานเผยคนร้ายแต่งชุดดำใส่หมวกอำพรางใบหน้า

จากการสอบถามกลุ่มแท็กซี่ซึ่งเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างผอมสูง แต่งกายมิดชิด สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ ใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ขี่รถจย.ยี่ห้อฮอนด้าคลิก ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาบริเวณเวทีของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจอดอยู่ประมาณ 5 นาที จากนั้นได้ขว้างระเบิดเข้ามาบริเวณที่ชุมนุม ก่อนจะซิ่งรถจยย.หลบหนีไปทางยูเอ็นมุ่งหน้าสะพานขาว ทั้งนี้เมื่อช่วง 3 วันที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02.00 น. เคยเห็นชาย 2 คน ขี่รถจยย.ยี่ลักษณะดังกล่าวมาจอดอยู่บริเวณพื้นที่ชุมนุม คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ

จำลองโวยตำรวจไม่ดูแล

ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีการเปิดเส้นทางการจราจรไปแล้ว และไม่มีการ์ดของกลุ่มพันธมิตรหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัย ตนกลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ผู้ชุมนุมจึงได้ทำหนังสือขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลไปเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับคำตอบว่ากำลังไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องส่งกำลังไปคอยดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้สมัครสส.พรรคต่างๆ จนกระทั่งก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจนได้

ขณะที่พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์โดยมุ่งหวังเอาชีวิต แต่จะเป็นฝีมือของกลุ่มใดตนยังไม่สามารถระบุได้ ส่วนวัตถุระเบิดยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชนิดใดต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้หลังจากมีการขอคืนพื้นที่ก็ยังมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยอยู่โดยรอบ แต่หลังจากเกิดเหตุจะต้องมีการปรับแผนในการวางกำลังใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมแจ็คเก็ตสีดำซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นางเลิ้งและฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้ายเป็นการเร่งด่วนแล้ว

ตร.เผยคนร้ายใช้ระเบิดเพลิง-ไม่มุ่งชีวิต

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่า ระเบิดที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องแบบเพลิงมีลักษณะการประกอบคล้าย M26 เท่านั้น ซึ่งระเบิดชนิดดังกล่าวนี้ ไม่สามารถทำอันตรายแก่ชีวิตได้ โดยยืนยันว่า ลักษณะการประกอบของระเบิดนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความรู้พอสมควร จึงจะสามารถประกอบขึ้นได้ ซึ่งเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ในช่วงเลือกตั้ง เนื่องจากไม่ประสงค์ให้ถึงแก่ชีวิต

"ไม่ใช่ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมตามที่แกนนำกล่าวอ้าง แต่เนื่องจากที่ผ่านมา พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้ถูกยกเลิกไป จึงทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ ต้องลดลงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการดูแลอย่างเต็มที่แล้ว" พล.ต.ท.จักรทิพย์

ล่าจักรยานยนต์ต้องสงสัยสีขาว

พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยหลังการประชุมฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตรำวจนครบาลว่า ได้สั่งการให้ทุกส่วนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงแล้ว ซึ่งเบื้องต้น คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ สีขาว ไม่ทราบหมายเลทะเบียนเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ส่วนประเด็นการก่อเหตุต้องการทำให้เกิดความสนใจ และสร้างความตื่นตระหนก เพราะขณะนี้บ้านเมืองกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และยังไม่ขอระบุว่าเป็นฝีมือของใคร ส่วนจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ถือว่ามีความเป็นไปได้ทุกประเด็น อย่างไรก็ตามต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนระยะหนึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบทันที