posttoday

"วิโรจน์"โชว์วิสัยทัศน์ ลั่นถึงเวลาเลือกคนที่พร้อมชนกับปัญหา

23 มกราคม 2565

"วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" เผยวิสัยทัศน์หลังเปิดตัวชิงผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคก้าวไกล ลั่นพร้อมชนทุกปัญหา ผลักดันพัฒนากรุงเทพฯให้ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 65 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามพรรคก้าวไกล กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ระหว่างการเปิดตัวการแถลงเปิดตัวว่า มีปัญหาหลายเรื่องที่เห็นว่าจะผลักดันให้การพัฒนากรุงเทพฯ ดีขึ้น โดยการแก้ปัญหาบนพื้นฐานความเป็นจริง ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ไม่ต้องเป็นคนที่มีความพิเศษอะไร แต่พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น ปัญหาการทุจริต, ปัญหาโครงสร้างการทำงานที่ซ้ำซ้อน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า จะเห็นว่าการแก้ปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่ผ่านมาล้มเหลว ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีน ขาดแคลนเตียง และการที่กรุงเทพฯ มีร้านขายยามากถึง 30% ของจำนวนร้านขายยาทั้งหมดสะท้อนว่าระบบสาธารณสุขมีความล่าช้า, ปัญหาการขุดถนนซ้ำซากจากหน่วยงานสาธารณูปโภค หากขุดแล้วจะต้องคืนสภาพให้ดีตามเดิม, ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยการสร้างพนังกั้นน้ำถาวร ไม่ใช่วางกระสอบทรายเวลามีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง, ปัญหาจุดเสี่ยงเกิดอาชญากรรม เช่น สะพานลอย ทางเดินข้าม ต้องมีการติดตั้งไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิด, ปัญหามลพิษ

"ผมพร้อมที่จะชนกับปัญหา เพื่อปกป้องประชาชน พร้อมที่จะทำหน้าที่พ่อเมืองของคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนยอมจำนนยอมรับสภาพ" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาราคาค่าโดยสารแพง โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ที่มีเงื่อนงำว่า คสช.ไปทำอะไรไว้กับสัญญาสัมปทานทำให้ต้องเป็นหนี้อยู่กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลออกมา และผลักดันให้มีตั๋วร่วม

"ผมไม่ได้มุ่งที่จะเข้ามาเพื่อสร้างรถไฟฟ้าเพิ่ม แต่ต้องทำให้คนกรุงเทพฯ มีโอกาสใช้รถไฟฟ้า, ปัญหาการศึกษาที่มีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ซึ่งสะท้อนจากจำนวนโรงเรียนนานาชาติที่มีมากถึง 118 แห่ง, ปัญหาศูนย์พัฒนาก่อนวัยเรียน 292 แห่งที่มีงบประมาณจำกัด ได้ค่าอาหารวันละ 20 บาท/คน"

"ผมเชื่อว่าเราสามารถลงมือทำเพื่อให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่าวันนี้ ผมพร้อมที่จะชนกับทุกปัญหา แก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา คนกรุงเทพฯ หมดเวลาที่จะต้องทน ซุกปัญหาไว้ ถึงเวลาเลือกคนที่พร้อมชนกับปัญหาเพื่อคนกรุงเทพฯ ผมพร้อมที่จะอาสา กรุงเทพฯ ได้เวลาเก็บกวาดแล้ว" นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนตัวทำงานนโยบายเกี่ยวกับกรุงเทพฯ มาตลอด และในที่สุดกรรมการบริหารได้ถามว่าพร้อมที่จะลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าพร้อมที่จะขับเคลื่อนการทำงาน และสนามกรุงเทพฯ จะเป็นบทพิสูจน์ถึงวิธีการทำงานของรัฐบาลแบบพรรคก้าวไกลที่จะสามารถบริหารจัดการได้ เชื่อว่าจะทำงานได้ดีกว่าบทบาทของการเป็น ส.ส.และมีนโยบายที่จะเอาชนะใจคนกรุงเทพฯ โดยไม่ได้คิดจะไปแข่งกับผู้สมัครคนอื่น หลังจากเปิดตัวแล้วก็ถือว่ามีความพร้อม ไม่ว่าจะประกาศให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่