posttoday

“ศักดิ์สยาม” แจงสภาคมนาคมใช้งบโปร่งใสไม่ซ้ำซ้อนเพื่อประชาชน

03 มิถุนายน 2564

รมว.คมนาคม ชี้แจงงบประมาณต่อสภา ยันใช้งบโปร่งใสไม่ซ้ำซ้อน กระจายทุกคมนาคมเพื่อประชาชน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 จากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงบประมาณของกระทรวงคมนาคม เรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2565 ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ในประเด็น ที่อภิปรายว่ากระทรวงคมนาคมได้งบลงทุนสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 34.6 จากงบลงทุน การตั้งงบประมาณดำเนินโครงการขนาดใหญ่มีความซ้ำซ้อน เช่นเส้นทางกรุงเทพฯ - นครราชสีมา และทล. ทช. อปท. แบ่งความรับผิดชอบการดูแลถนน ได้มั่ว การกระจายของงบประมาณสำหรับการสร้างสนามบินปี 2565 ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ตอบข้อซักถามถึงความโปร่งใส การจัดซื้อจัดจ้าง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ คือ

1.งบประมาณโครงสร้างการลงทุน เป็นงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานปีงบประมาณ 2565 มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นงบประมาณปกติ มี วงเงินงบประมาณ 221,611ล้านบาท และ เงินนอกงบประมาณ 256,434 ล้านบาท โดยเงินนอกงบประมาณ จะแบ่งเป็น 1. การใช้ ตามพ.ร.บ.รัฐร่วมลงทุนกับเอกชน 2. การใช้งบเงินกู้ จากกระทรวงการคลัง 3.งบจากโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งงบประมาณที่ได้ดังกล่าวใช้ในการพัฒนาคมนาคม4 มิติ คือ 1.ระบบราง 240,000 ล้านบาท ซึ่งผูกพันไปอีก 3-4 ปี 2.ทางบก 190,000 ล้านบาท 3.ทางอากาศ 18,000 ล้านบาท 4.ทางน้ำ 6,000 ล้านบาท

2.การดำเนินโครงการพัฒนาเส้นทางกรุงเทพฯ – นครราชสีมา มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ เนื่องจากถนนมิตรภาพมีการจราจรที่ติดขัด มีผู้ใช้รถใช้ถนนช่วงเวลาปกติกว่า 76,000 คัน/วัน ส่วนช่วงเทศกาล มากกว่า 110,000 คัน/วัน เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในเส้นทาง กรุงเทพฯนครราชสีมามีความจำเป็นมาก เพราะ1. บางปะอิน-นครราชสีมา เป็นเส้นทางสั้นที่สุดที่ออกสู่ภาคอีสานกว่า 20 จังหวัด รองรับการเดินทางของประชาชน 22 ล้านคน 2. กรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นประตูสู่อีสาน 3.กรุงเทพฯ- นครราชสีมา เป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน 4.ข้อจำกัดของลักษณะกายภาพพื้นที่ ด้านทิศตะวันตกเป็นแนวเชื่อมและด้านตะวันออกเป็นแนวเขา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายต่อกระทรวงคมนาคม ว่า หากมีการก่อสร้างขอให้พิจารณา Criteria ในการกำหนดแนวถนนตามข้อสั่งการ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.ถนนแนวตรงทำให้การสัญจรสะดวก ลดปัญหาอุบัติเหตุ 2. ไม่ผ่านเข้าชุมชน ไม่ซ้ำแนวถนนเดิม 3. พัฒนาความเจริญเข้าสู่พื้นที่ใหม่ 4. สร้างชุมชนเมืองใหม่ 5 แยกการจราจรในเมืองใหม่ออกจากการเดินทางระหว่างเมือง กระทรวงคมนาคมจึงได้เนินการจัดทำ Master plan หรือเรียกว่า MR-MAP ซึ่งบูรณาการการก่อสร้าง รถไฟรางคู่ ร่วมก่อสร้างในพื้นที่แนวเดียวกับมอเตอร์เวย์ มี 9 เส้นทาง รวมระยะทาง 5,000 กม.ทั่วประเทศ แบ่งเป็น แนวเหนือใต้ (N-S) 3 เส้นทาง ระยะทาง 2,620 กม. ได้แก่ 1.เชียงราย-สงขลา 1,660 กม. 2.หนองคาย-แหลมฉบัง และ 3.บึงกาฬ-สุรินทร์ ขณะที่ แนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W) 6. เส้นทาง ระยะทาง 2,380 กม. ได้แก่ 1.ตาก-นครพนม 2.กาญจนบุรี-อุบลราชธานี 830 กม. 3.กาญจนบุรี-สระแก้ว 4.กาญจนบุรี-ตราด 220 กม. 5.ชุมพร-ระนอง และ 6.ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี หากการดำเนินตามแผน MR-MAP แล้วเสร็จ จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และงบประมาณ ส่วนโครงการ Landbridge เป็นการขนส่งเชื่อมโยง 2 ฝั่งท่าเรือน้ำลึก ปัจจุบันโครงการอยู่ในขั้นตอน การคัดเลือกที่ตั้งของท่าเรือน้ำลึก ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ขาดภายใน 1 ปีจะทราบผลการศึกษา

3. นับตั้งแต่อดีตโครงข่ายถนนและหน่วยงานที่รับผิดชอบในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 702,346 กม.ทล. ทช. อปท.มีการแบ่งงานอย่างเป็นระบบอยู่แล้วอย่างชัดเจน

4.การกระจายของงบประมาณสำหรับการสร้างสนามบินปี 2565กระทรวงคมนาคมมุ่งเน้นการลงทุนในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนโดยเป็นงบลงทุนต่อเนื่องไม่ได้เป็นการลงทุนก่อสร้างสนามบินใหม่ เช่น ท่าอากาศยาน กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง บุรีรัมย์และขอนแก่น

สำหรับ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสาย บ้านไผ่ -มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างได้ยึดหลักตามระเบียบ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามกระบวนการ e-bidding ซึ่ง รฟท.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ดำเนินการโดยกรมบัญชีกลาง เดิมราคากลางที่ครมอนุมัติ เมื่อ 31 กรกฎาคม 2561 แต่ปัจจุบันปี 2564 ต้นทุนราคาก่อสร้างได้ปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวได้มีการชี้แจง ทำความเข้าใจต่อสาธารณชน นักวิชาการ และผู้สื่อข่าวแล้วผ่านทาง Clubhouse เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68