posttoday

โฆษกรบ.ย้ำนายกฯไม่ได้ยึดอำนาจแค่คุมแก้จัดซื้อวัคซีน-ขึ้นทะเบียนล่าช้า

28 เมษายน 2564

“โฆษกรบ.”ยัน โอนอำนาจ “นายกฯ” คุมเบ็ดเสร็จแก้ปัญหาจัดซื้อวัคซีน-ขึ้นทะเบียนล่าช้า ย้ำไม่ได้ยึดอำนาจรมต.ยังบริหารงานได้เหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องการโอนอำนาจบริหารจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 มาไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้มีต้นเหตุว่าคุมสถานการณ์ไม่ได้หรือการทำงานของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในส่วนการกระจายวัคซีน ไม่มีประสิทธิภาพแต่อย่างใด แต่การออกคำสั่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หลังจากครั้งแรกได้ออกคำสั่งเมื่อเดือนมี.ค.2563 เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของไทย เนื่องจากเรื่องวัคซีน และเรื่องการขึ้นทะเบียนวัคซีนอย่างที่หลายคนทราบว่าขณะนี้กระบวนการมีความล่าช้า ในคำสั่งครั้งที่ 3 นี้จึงต้องการเร่งดำเนินการนำเข้าวัคซีนและขึ้นทะเบียนวัคซีนให้รวดเร็วมากขึ้น จึงให้อำนาจนายกรัฐมนตรีพิจารณาได้ทันทีรวดเร็ว ไม่ต้องกลับไปที่กระทรวงเพื่อพิจารณา ทำประกาศหรือออกกฎกระทรวงอีก อาจจะเกิดความล่าช้าใช้เวลานาน โดยนายกฯสามารถสรุปในที่ประชุม ศบค.และตัดสินใจได้เลย

โฆษกรัฐบาล กล่าวยืนยัน ว่านายกฯ ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้คนเดียว แต่จะขับเคลื่อนและพิจารณาปรึกษาหารือในที่ประชุม ศบค. ร่วมกับคณะกรรมการที่อยู่ใน ศบค.ซึ่งก็จะมีทั้งรัฐมนตรีสาธารณสุข และรัฐมนตรีด้านต่างๆที่รับผิดชอบอยู่

ทั้งนี้ อำนาจการบริหารงานของแต่ละกระทรวงยังคงเป็นของรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงเหมือนเดิมแต่คำสั่งการโอนอำนาจให้นายกฯ เป็นเพียงการเพิ่มอำนาจโดยชอบธรรมให้นายกฯ นั้น ไม่ใช่การริดรอนอำนาจของรัฐมนตรีคนอื่นๆ ซึ่งก็ยังดูแลกระทรวงตามปกติ.