posttoday

"บิ๊กตู่" รับบกพร่องไม่ใส่แมสก์ ให้กำลังใจ"อนุทิน" รับศึกหนักวอนหมอเข้าใจการบริหาร

27 เมษายน 2564

“นายกฯ”รับบกพร่องเองไม่ใส่หน้ากากนอกเคหสถาน แจงรัฐเคลียร์ผู้ป่วยตกค้างเข้ารักษาใน 3 วัน ผู้ป่วยโควิด สีเขียวแจ้งรพ.สนามได้เลย พร้อมสั่งกห.จัดหารถ-ทหารเพิ่ม พร้อมให้กำลังใจ”หมอหนู-หมอตี๋-ปลัดสธ.”ด่านหลักรัฐบาลต้องรับศึกหนัก วอนกลุ่มแพทย์เข้าใจการบริหารราชการ ส่งเสริมดีกว่ามาขัดแย้งกัน

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงกรณีที่ผู้ว่าฯกทม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเปรียบเทียบปรับตน 6,000 บาท ในทำเนียบฯ หลังจากที่ตนไม่ใส่หน้ากากอนามัยขณะนั่งประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษา ว่า หลังจากที่มีการนำภาพขึ้นเฟซบุ๊ก ตนเห็นข่าวจากโทรทัศน์และเฟซบุ๊กแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงได้ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย ให้ประสานไปยังกทม.ว่ากรณีที่ตนไม่ใส่หน้ากากอนามัยขณะประชุม ถือว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับแจ้งว่ามีความผิดและเขาได้นำเจ้าหน้าที่มาเปรียบเทียบปรับ ก็แค่นั้น 

“ผมยอมรับว่าผมบกพร่อง เรื่องไหนที่มันจบก็ให้มันจบไป เรื่องมันจบไปแล้วก็ให้มันจบไป สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจว่ามีกฎหมายหลายตัว ทั้งของตำรวจ พรก.ฉุกเฉิน และมาตรการต่างๆ ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นต้องพิจารณาว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกปรับ เมื่อออกนอกเคหะสถาน ที่สำคัญคือการสวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะ แม้ว่าจะอยู่คนเดียวก็ตาม ในวัดถ้ามากกว่า 1 คนก็ต้องสวมหน้ากาก จัดรายการในสตูดิโอก็ต้องสวมหน้ากากทุกคน เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบอนุโลม ไม่ต้องใส่หน้ากาก สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐาน ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับกฏหมายที่มีอยู่ปัจจุบันว่าต้องใส่หน้ากากกันอย่างไร ส่วนการขับรถยนต์นั้นถ้านั่งหลายคนก็ต้องใส่ ตนนั่งรถมาก็ใส่มาตลอดทางเพราะเราไม่ต้องการแพร่เชื้อให้กับคนอื่นหรือคนใกล้ตัวต้องระวังทั้งหมด

ส่วนกรณียอดผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มสูงขึ้นถึง 15 รายซึ่งประชาชนมีความกังวลว่าจะยังมีผู้ป่วยตกค้าง ไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวในรพ.นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเป็นห่วง ซึ่งประชาชนอาจมีความกังวลว่าคนเหล่านี้ได้รับการติดเชื้อจะได้รับการรักษาตัวหรือไม่ ถึงมือแพทย์หรือไม่ และวันนี้รัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร ตนก็ตอบไปว่าได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้โดยผู้ป่วยที่ตกค้างอยู่นอกรพ.ประมาณ 1,400  คน วันนี้ได้รับการแอดมิดแล้วซึ่งใช้เวลา เพียง 3 วัน ตรงนี้เป็นยอดตกค้างมาตั้งแต่สงกรานต์บางทีก็ยังเป็นปัญหาอยู่ อย่างไรก็ตามตนให้กำลังใจกับรองนายกฯ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขและปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นด่านหน้าหลักของรัฐบาลอยู่แล้ว

“ผมต้องขอความร่วมมือกลุ่มแพทย์ต่างๆ ให้เข้าใจว่าเราบริหารราชการกันอย่างไร เราน่าจะส่งเสริมกันมากกว่าที่จะมาขัดแย้งกัน ผมเคารพทุกท่านไม่ว่าจะเป็นหมอจากที่ไหนก็ตามไม่เช่นนั้นจะทำให้เราถูกมองว่าเราบริหารไม่ได้หรืออย่างไร ผมยืนยันว่าบริหารได้ทุกอย่าง เวลานี้ไม่มีปัญหาอะไรในกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น”นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีผู้ป่วยที่เป็นสีเขียวจำนวนมาก ไม่ได้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสนาม ทั้งที่มีเตียงว่างอยู่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ขอให้ติดต่อมา เพราะต้องมีการคัดกรองให้แน่ใจว่าอยู่ในเกณฑ์สีเขียวและจะนำเข้าโรงพยาบาลสนาม บางครั้งก็ขอให้ติดต่อสอบถามทางออนไลน์ เนื่องจากการติดต่อทางโทรศัพท์อาจจะยังไม่ทั่วถึง ท่านสามารถไปดูได้เลยว่าโรงพยาบาลสนามอยู่ที่ไหน ถ้าหากคิดว่าตัวเองเข้าเกณฑ์ก็ขอให้บอกเจ้าหน้าที่ที่นั้นเขาก็พร้อมรับฟัง เพราะบางครั้งไปตรวจสถานที่เอกชน เขาไม่ได้รายงานเข้ามา ทำให้ขาดความต่อเนื่องของระบบ ฉะนั้นขอความร่วมมือสถานที่ตรวจคัดกรองของเอกชนจะต้องแจ้งข้อมูลว่ามีคนติดเชื้อหรือไม่อย่างไร แล้วเข้ามาสู่ระบบของกระทรวงสาธารณสุข ไม่อย่างนั้นพอคนไปตรวจแล้ว ก็ต้องมารอว่าจะมีใครมาเรียกไปไหม ซึ่งตนให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาตรงนี้แล้ว

เมื่อถามว่า กรณีรถที่รับส่งผู้ป่วยไม่พอ นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งการเพิ่มเติมไปแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณภาคธุรกิจ ภาคขนส่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสายด่วนไม่พอ รถไม่พอ วันนี้เราต้องเคลียร์เรื่องผู้ป่วยสีแดง มีเหลือง สีเขียวให้ได้ จะได้รู้ว่ามีความต้องการใช้ยานพาหนะเท่าไหร่ วันนี้เพิ่มเติมในส่วนของกระทรวงกลาโหมไปให้แล้วส่วนหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ถ้าไม่พอกระทรวงกลาโหมก็มีทหารเสนารักษ์จำนวนมาก ก็ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขประสานไปแล้ว ซึ่งหากมีความต้องการให้ช่วยเหลืออะไร ทางกระทรวงกลาโหมก็ยินดี

"ทุกปัญหานำสู่การแก้ไข ทุกปัญหานำสู่การพิจารณาหารือ ทุกปัญหารับพิจารณาดำเนินการ ทำแบบนี้ ส่วนเรื่องของความผิดต่าง ๆ ที่เกิดในช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการสอบสวนทั้งสิ้น การประกอบการธุรกิจอะไรก็แล้วแต่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีการระบาดโควิด-19 ที่ประเทศอิน เดีย และมีการกลายพันธุ์ที่รุนแรง จะมีมาตการป้องกันกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ขอให้กำลังใจเขา ทุกประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เราจะรังเกียจรังงอนไม่ได้ เพราะทุกคนอยู่ในโลกใบเดียวกัน ภูมิภาคเดียวกัน แต่เราต้องมีมาตรการเฉพาะ ขอยืนยันว่าเรามีมาตรการรับความเสี่ยงตรงนี้อยู่แล้ว เราก็มีระงับเป็นการชั่วคราว และเกณฑ์การกักตัวเราก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด การบริหารสถานการณ์ที่เกี่ยวกับเรื่องต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เห็นเขาป่วยมากๆ แล้วดี ไม่ใช่ ตนไม่อยากให้ใครบนโลกใบนี้ป่วย ก็อยู่ที่พวกเราทุกคนต้องเข้าใจกัน อย่าใช้ความเกลียด ความไม่ชอบเป็นการส่วนตัววออกมาทำร้ายซึ่งกันและกัน วันนี้ไม่ใช่เวลา เป็นเวลาแห่งความรัก ความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติเราจะชนะไปด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าว ระหว่างที่นายกฯเดินกลับไปห้องทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อถามว่าได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข  ภายหลังถูกกดดันอย่างหนักอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามเพียงแต่พยักหน้า เมื่อถามว่า ส่วนตัวนายกฯเองรู้สึกกดดันหรือไม่ เพราะสังคมก็กดดันนายกฯเช่นกัน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ