posttoday

ชูวิทย์ ติรัฐบาลประเมินผิดมหันต์ แนะนำเข้าวัคซีนให้มากที่สุด

21 เมษายน 2564

ชูวิทย์ ขอพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ ชี้รัฐบาลออกทะเลไปไกลประเมินเรื่องวัคซีนผิด พร้อมแนะทางออกสู้โควิด

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ถึงแผนงานจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 และบริหารรัฐบาลในสถานการณ์ขณ๊ะนี้ ว่า วัคซีน เรื่องที่รัฐบาล ออกทะเลไปไกล

.

ขอพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้รัฐบาลได้เข้าใจความรู้สึกของชาวบ้าน แทนที่จะอยู่แต่บน “หอคอยงาช้าง”

.

เรื่องวัคซีนมีสองมิติ เป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ “สุขภาพ” และเรื่องของ “เศรษฐกิจ” ต้องคำนึงถึงประโยชน์ทั้งสองด้าน

.

ประเทศไทยคงไม่อยากให้แค่ควบคุมโควิดได้ดี

.

แต่ไม่มีใครมาเที่ยว เพราะประเทศที่คนอยากมาเที่ยว คือประเทศที่มีคนฉีดวัคซีนมากพอ จนมีภูมิคุ้มกันหมู่

.

นักท่องเที่ยว และนักลุงทุนทั่วโลก เขาเลือกเอาประเทศที่มีการฉีดวัคซีนมากสุด

.

ประโยคสั้นๆ ของต่างชาติ คือ “ไม่เสี่ยงกับประเทศที่แม้มีการควบคุมดี แต่ฉีดวัคซีนให้ประชากรน้อย อย่างประเทศไทย”

.

เพราะไม่ว่าจะควบคุมโควิดอย่างไร ก็พังเอาจากคนใกล้ตัวทั้งสิ้น และท่านนายกฯ ก็ไม่มีปัญญาจะแก้ไขอะไรได้

.

คลัสเตอร์ล่าสุดที่ทองหล่อ รุนแรงสาหัส เพราะโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่ติดเร็ว แพร่เร็ว ทำเอาคนเดือดร้อนทั่วประเทศ

.

และในเมื่อทุกชาติเขาเชื่อเรื่อง “วัคซีน” ไม่ได้เชื่อเรื่อง “ดวง” ของผู้นำ

.

ดังนั้นยิ่งฉีดเร็วแค่ไหน ก็จะเปิดประเทศได้เร็วเท่านั้น ใครใคร่ค้า...ค้า ใครใคร่ขาย...ขาย

.

รัฐบาลยอมรับเถอะครับว่า ประเมินผิดมหันต์ ไม่ต้องไปเรียนเศรษฐศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ก็รู้แล้วว่า หากซื้อวัคซีนแต่แรก แม้ว่าจะแพงเท่าไหร่ แต่คุ้มกับการลงทุน

.

ไม่ใช่มัวห่วงว่าวัคซีนออกมาใหม่ๆ ไม่ชัวร์บ้าง แพงบ้าง เอกชนจะเอาเข้าก็ไม่ได้บ้าง รออีกหน่อยได้ของถูกกว่าบ้าง หรือกลัวแม้กระทั่งใช้วัคซีนไม่ทันหมดอายุไปโน่น

.

ทางออกง่ายๆ คือ นำเข้าวัคซีนให้ได้มากที่สุด ไม่มัวแต่เรื่องมาก ขั้นตอนเยอะ ประเทศอื่นเขาเอาหมดทุกยี่ห้อ ตุนไว้จนเกินจำนวนประชากรที่ประเทศตัวเองมีเสียด้วยซ้ำ

.

ดูประเทศสิงคโปร์เป็นตัวอย่าง รัฐบาลรีบเร่งฉีดให้ประชากรแทบหมดประเทศ และยังกักตุนไว้อีกมาก เพราะห่วงเรื่องเศรษฐกิจ ทำมาหากินในอนาคต

.

หากสุขภาพดี แต่ไม่มีกิน จะไหวหรือ?

.

มัวแต่เอาเงินไปตะบี้ตะบันแจกชาวบ้าน พอหมดก็มาแจกใหม่ สู้เอาเงินไปซื้อวัคซีนฉีดแจกให้กับประชากรเร็วๆ จะดีกว่าไหม?

.

หรือรัฐบาลห่วงแต่เรื่องการเมือง เอาหมาบ้าร็อตไวเลอร์หน้าร้อนไว้ใกล้ตัว เป็นองครักษ์พิทักษ์นาย ใครออกความเห็นไม่ตรงกับนายกฯ เป็นต้องออกมาขย้ำ

.

พวกนี้ล้วน “กินบนเรือน แต่ขึ้นไปขี้บนหลังคา” ท่านนายกฯ อย่าได้ไว้ใจ

.

ตอนนี้แม้แต่ภาคเอกชนที่เกรงใจรัฐบาลสุดๆ ยังออกอาการ รวมตัวกัน 40 บริษัทใหญ่ ขอออกค่าใช้จ่ายซื้อวัคซีนเองก็ได้

.

ในเมื่อวัคซีนมาช้า มาน้อย เพราะการตัดสินใจของรัฐบาลช้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าจุดจบของโควิด คือ วัคซีน

.

ผมค้าขายมาทั้งชีวิต จึงดูออกว่ารัฐบาลกลับตัวช้าไป

.

พอคนติดน้อย ก็ปล่อย พอคนติดมากก็คุม อย่างนี้เรียกว่า “เศรษฐกิจลักกะปิดลักกะเปิด”

.

ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า

.

ขณะนี้ ประเทศไทยฉีดวัคซีนน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา เสียอีก

.

ถึงวันนี้ ท่านยอมรับเถอะว่า เรื่องวัคซีน “ประเมินผิด” อย่างแรง

.

หลงออกทะเลไปไกล กลับมาขึ้นฝั่งเถอะครับ

ที่มา : https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/4404303119616383