posttoday

“เพื่อไทย” เย้ย "บิ๊กตู่" ไม่เข้าใจคนจน ขนาดแจกเงินยังโดนด่า อัด ยิ่งบริหาร คนจนยิ่งเพิ่ม

22 มกราคม 2564

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เย้ย “ประยุทธ์” ไม่เข้าใจคนจน ขนาดแจกเงินยังโดนด่า ชี้ ยิ่งบริหาร คนจนยิ่งเพิ่ม แนะ ปรับ วิธีการ “คนละครึ่ง-เราชนะ” ก่อนที่จะหายนะ

เมื่อวันที่ 22 มค.64 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง โครงการคนละครึ่งรอบเก็บตกและโครงการเราชนะ ปล่อยให้คนแย่งกันลงทะเบียน สภาพไม่ต่างจากการรับแจกทาน โครงการคนละครึ่งเฟสสอง รอบเพิ่มเติมเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 20 มกราคม ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. ยังไม่ถึง 10 นาที มีผู้ใช้สิทธิ์เต็มจำนวน 1.34 ล้านสิทธิ์ จนเกิดคำถามตามมาว่า สถานการณ์ความลำบากไม่มีจะกิน รัฐบาลไม่เยียวยาแต่กลับเอาเงินภาษีของประชาชนมาแจกเจ้าของเงินแบบแจกทาน ศักดิ์ศรีความเป็นประชาชนหายไป เพราะถูกรัฐยัดเยียดความเป็นคนจนให้ ล่าสุดธนาคารโลก" ออกมาระบุว่า โควิด-19 ทำคนไทยจนขึ้นอีก 1.5 ล้านคนอัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 หดตัวไปถึง -12% ต่อปี ระดับเดียวกับเมื่อครั้ง “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ทำให้นึกถึงคนชื่อ “สมคิด จตุศรีพิทักษ์” ขึ้นมาทันที ซึ่งประเด็นนี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ในภาวะที่ลำบากกันอย่างมากนี้ ประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในหลายกรณี แต่กลับต้องให้ลงทะเบียนผ่านมือถือ โดยประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า พอแนะนำเรื่องนี้รัฐบาลก็บอกว่าจะมีการติดต่อบริษัทให้มาจำหน่ายโทรศัพท์มือถือให้ในราคาพิเศษให้กับคนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ สามารถซื้อเพื่อลงทะเบียนเข้าโครงการได้ สรุปว่ามันเยียวยาประชาชนหรือเติมความรวยให้เจ้าสัวกันแน่ วันนี้คนกลับมองว่ารัฐบาลเหมือนฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมาเจอกัน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคิดอะไรไม่ผูกโยงกับความเดือดร้อนของประชาชน เงินจากภาษีประชาชนควรให้เขามีสิทธิ์ใช้อะไรก็ได้ กลับไปคิดโอนเงินให้ประชาชนใช้อาทิตย์ละพันผ่านแอพ แจกช้า วิธีการยุ่งยาก ให้เงินแบบนี้เหมือนเห็นประชาชนเป็นบอนไซบังคับไม่ให้เจริญเติบโต อีกทั้งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เคยเตือนให้รัฐบาลใช้ระบบเยียวยาถ้วนหน้าเหมือนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากับประชาชนทุกคน เพื่อป้องกันคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้เข้าถึงการเยียวยาไม่ได้ อย่าทำแบบ “ทราบแล้วเปลี่ยน” ล่าสุดก็เปลี่ยนอีกจนได้ นายสุพัฒน์พงษ์ได้ออกมาแจ้งว่า กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียน “เราชนะ” แต่จะได้รับเงินโอนเข้าบัตรโดยตรง ส่วนผู้ที่ไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ไม่มีสมาร์ทโฟน ได้ประสานงานกับธนาคารของรัฐที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มคนดังกล่าวให้สามารถลงทะเบียนได้ ถ้ารัฐบาลไม่คิดเปลี่ยนวิธีการ วันสิ้นเดือนมกราคมที่เปิดให้ลงทะเบียนจะต้องเผชิญกับเว็บล่ม แอพมีปัญหา ประชาชนด่าทั้งประเทศแน่ จากเราชนะ จะกลายเป็นความหายนะ ถ้าไม่เตรียมการดีๆ ระวังประชาชนจะพากันร้องเรียกหาคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” กันระงม ประวัติศาสตร์การเมืองจะบันทึกอีกครั้ง ว่า เป็นรัฐบาลที่แจกเงินให้ประชาชนแต่คนด่าและสาปแช่งกันทั้งเมือง