posttoday

"เทพไท" ชี้ 2 รมต.ไม่เข้าใจชีวิตคนจน เสนอลงทะเบียน"เราชนะ"2ระบบลดเหลื่อมล้ำ

21 มกราคม 2564

ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ "สุพัฒนพงษ์-อาคม" ไม่เข้าใจชีวิตคนจน เสนอลงทะเบียน โครงการเราชนะ เป็น 2 ระบบ ลดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรี 2 ท่านในรัฐบาลชุดนี้ พูดถึงการลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น โครงการ เราชนะ เพื่อรับเงินเยียวยาจากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ได้พูดถึงประชาชนระดับรากหญ้า ที่ไม่สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นได้ เพราะ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ที่จะใช้กับสมาร์ทโฟนได้

ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ราคาโทรศัพท์ก็ไม่แพง คิดว่าคนไม่มีโทรศัพท์ไม่น่าจะเยอะ โครงการนี้ครอบคลุมประชาชน 31 ล้านคน ถ้า 2 ล้านคนไม่มีโทรศัพท์ ก็แสดงว่า 90% ได้ประโยชน์ไปแล้ว อีก 2 ล้านคนที่เหลือ ก็จะต้องมาดูแล”

และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า “การแจกเงิน 3,500 บาท จะต้องใช้จ่ายผ่านแอพฯ เป๋าตัง อย่างเดียวเท่านั้น เพราะต้องการสนับสนุนสังคมไร้เงินสด ส่วนคนไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เชื่อว่าจะเป็นส่วนน้อย เพราะบางส่วนก็ถือบัตรสวัสดิการอยู่แล้ว แต่หากใครไม่มีก็ต้องขอรบกวน เพราะตอนนี้ราคาไม่แพงแล้ว”

ถ้าพิจารณาดูจากคำให้สัมภาษณ์ของทั้ง 2 ท่านแล้ว จะเห็นได้ว่าบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในสังคมเมือง เป็นนักธุรกิจ มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง และเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จึงไม่มีโอกาสสัมผัสชีวิตประชาชนในพื้นที่ชนบท จึงไม่เข้าใจว่าคนยากคนจนในชนบท มีความยากลำบากในการจะซื้อโทรศัพท์มือถือชนิดที่ทันสมัยใช้ระบบสมาร์ทโฟนได้ เพราะมีราคาค่อนข้างสูง และแม้ว่าจะมีแล้วก็ตาม ก็ยังไม่มีสามารถใช้ระบบสมาร์ทโฟนได้ เพราะมีขั้นตอนยุ่งยากมากมายในการลงทะเบียน และพบว่าบางคนก็ยังใช้โทรศัพท์ไม่เป็น

จึงอยากจะให้ ผู้บริหารระดับรัฐมนตรีได้เข้าใจถึงชีวิตความเป็นจริงของคนในชนบทด้วย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลอาจจะใช้ระบบการเยียวยาออกเป็น2ประเภท คือประเภทลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น กับการลงทะเบียนตามแบบฟอร์มของทางราชการตามปกติ แล้วค่อยนำไปคีย์ข้อมูลลงในระบบของกระทรวงการคลังภายหลัง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนคนรากหญ้า ได้รับโอกาสเยียวยาจากรัฐบาลอย่างเท่าเทียมกัน