posttoday

"สิระ"โต้"เสรีพิศุทธ์"ให้รอรับหมายศาลหลังปีใหม่ปมยื่นถอดถอน

23 ธันวาคม 2563

"สิระ"แจง"เสรีพิศุทธ์"ยกคดีเก่ามาถอดถอนเตรียมฟ้องกลับหลังปีใหม่มั่นใจบริสุทธิ์คดีถูกล้างมลทิลแล้วปี 50

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิชอบ(ปปช.) สภาผู้แทนราษฎรว่า มีเจตนาอย่างไรสังคมรู้ดี เนื่องจากตนกับพล.ต.อ.เสรีเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่ แต่การทำงานในหน้าที่ ส.ส.ที่ผ่านมาตนทำตามหน้าที่ไม่มีอคติ แต่เมื่อพล.ต.อ.เสรีมาเล่นงานตนเรื่องนี้ก็ต้องไปต่อสู้กันในศาลตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากคดีของตนจบไปแล้วเพราะได้รับการล้างมลทินตามพ.ร.บ.ล้างมลทินฯ พ.ศ. 2550ดังนั้นหลังปีใหม่ พล.ต.อ.เสรีเตรียมรับหมายศาลได้เลย ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม คดีนี้สืบเนื่องจาก ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิชอบ(ปปช.) สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ร่วมกันแถลงเพื่อยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อถอดถอนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จากการเป็น ส.ส.เนื่องจากเคยต้องโทษในคดีต่างๆ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า มีผู้ร้องเรียนและให้ข้อมูลระบุว่า นายสิระต้องโทษในคดีต่างๆ และอยากให้ กมธ.ดำเนินการตรวจสอบ เมื่อมีผู้ร้องมาตนในฐานะประธานกมธ.ปปช. ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ เพราะเราอยากให้สภาเป็นที่ของประชาชนเอาไว้ทำงานให้ประชาชน ชพวกตนพรรคเสรีรวมไทย ยึดมั่นในเรื่องตัวบุคคลเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน หรือฝ่ายรัฐบาล ถ้าเป็นคนดี เราก็ยินดีด้วยและพร้อมจะให้การสนับสนุน แต่ถ้าเป็นคนไม่ดี แม้จะเป็นคนในพรรคเดียวกัน เราก็ไม่เอาด้วย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีคำพิพากษากรณีนายสิระ ไม่ว่าจะใช้ชื่อ ชลสิทธิ์, สุรสิทธิ์ หรือ สิระ เจนจาคะ ก็ถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ประกอบด้วย ทั้งนี้ มาตรา 98 (7) ถือว่าคดีมีระยะเวลานานกว่า 20 ปีแล้วจึงถือว่าเป็นอันสิ้นสุด แต่สำหรับมาตรา 98 (10)ที่ระบุว่าเคยต้องคำพิพากษาคดีเกี่ยวกับทรัพย์นั้น ศาลแขวงปทุมวัน ได้สั่งจำคุก นายสิระ กรณีเกี่ยวกับทรัพย์ ดังนั้นพรรคเสรีรวมไทยจะยื่นเรื่องนี้ไปยังประธานสภาฯ เพื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่านายสิระ มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัญธรรมนูญมาตรา 98 (10) หรือไม่ และหากมีลักษณะต้องห้ามจริง เท่ากับนายสิระรู้ว่าตัวเองมีคุณลักษณะต้องห้าม แต่ยังแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน กกต. ในตอนที่ไปสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส. ตนก็จะส่งเรื่องนี้ไปยัง กกต. เพื่อให้ กกต.ร้องไปยังศาลคดีอาญาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

ทั้งนี้ หากมีความผิด จะมีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท นอกจากนี้ นายสิระยังต้องชดเชยค่าเสียหายจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ไปจนถึงต้องคืนเงินเดือนและเบี้ยประชุมกมธ.ทั้งหมดที่ได้รับ ตั้งแต่วันแรกที่เป็นส.ส.จนถึงวันที่พ้นหน้าที่ด้วย เป็นของขวัญปีใหม่คืนให้กับพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวว่าประชาชนจะมองว่าเป็นการเอาคืนกัน เพราะมีปากเสียงกันใน กมธ.ปปช. อยู่บ่อยครั้งพล.ต.อ.เสรี ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะเวลานายสิระมีปากเสียง ตนไม่ได้ไปมีปากเสียงด้วย นายสิระเองถือว่าเขาได้รับเอกสิทธิ์ เขาก็แสดงเอกสิทธิ์เต็มที่จนบางครั้งมากและเวอร์เกินไป แต่ก็ไปทำอะไรเขาไม่ได้ ดังนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะตนเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว