posttoday

"ราเมศ"สวน"เสรีพิศุทธ์"อย่าชักใบให้เรือเสีย ย้ำ "ชวน"ทำหน้าที่เป็นกลาง

15 ธันวาคม 2563

"ราเมศ" โต้ "เสรีพิศุทธ์" อย่าชักใบให้เรือเสีย ยืนยัน "ชวน หลีกภัย" ทำหน้าที่เป็นกลาง เย้ยควรจะรู้กรอบการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.63 นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า หลักการคณะกรรมการสมานฉันท์ เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นพื้นที่พูดคุยในการแสวงหาทางออกให้กับประเทศ ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการคาดหมัดตั้งมวยเป็นคู่แพ้ชนะกัน เชื่อว่าหากใครที่คิดได้เช่นนี้ย่อมเป็นการตั้งต้นคิดที่ถูกต้องเพื่อประเทศ

ส่วนในเรื่องสัดส่วนที่สถาบันพระปกเกล้าได้กำหนดวางโครงสร้างมาก็เป็นไปตามสัดส่วน ที่มีทุกภาคส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านการประชุมหารือร่วม 4 ฝ่าย จำนวน 21 คน มาจาก 7 กลุ่ม ประกอบด้วย ตัวแทนจากรัฐบาล 2 คน ตัวแทนจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คน ตัวแทนจาก ส.ส.ฝ่ายค้าน 2 คน ตัวแทนจาก ส.ว. 2 คน ตัวแทนจากกลุ่มผู้ชุมนุม 2 คน ตัวแทนจากกลุ่มผู้มีความเห็นเป็นอย่างอื่น 2 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน โดย 3 คนมาจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย 1 คนมาจากที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 1 คนมาจากที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และ 4 คนมาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านปรองดองสมานฉันท์ หากมองด้วยความตรงไปตรงมาถือว่าครบถ้วน ไม่ใช่คนของรัฐบาลทั้งหมด มีทุกฝ่ายครบถ้วน ไม่อยากให้ชักใบให้เรือเสีย

หลักการสมานฉันท์ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แค่ตั้งต้นหลักคิดเพื่อประเทศชาติก็สามารถเดินไปข้างหน้าได้

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ว่าไม่มีความเป็นกลาง ที่ไม่ยอมให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและจะไปฟ้องศาลฎีกานั้นตนในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องกฎหมายเรื่องนี้มีข้อมูลข้อเท็จจริงครบถ้วนว่า นายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางยึดหลักการตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับ หากไม่มีความเป็นกลางการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติซึ่งมีเรื่องถวายสัตย์อยู่ในญัตติด้วย ก็คงตกไปแล้ว แต่มีการอภิปรายได้เพราะประธานสภาเห็นว่าคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญไม่ผูกพันรัฐสภาเหตุเพราะไม่ใช่คำวินิจฉัย ครั้งนั้นแม้แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่พอใจ แต่นายชวน ตัดสินใจเพราะยึดหลักการความถูกต้อง

ส่วนเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ควรจะรู้ว่าตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับมีกรอบในการอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ไม่ไว้วางใจในการทำหน้าที่หรือไม่ไว้วางใจทั้งชีวิตของนายกรัฐมนตรี

ส่วนการจะไปฟ้องร้องนายชวน หลีกภัย ก็เป็นเรื่องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้กังวลใจใดๆ ฟ้องมาก็พร้อมสู้มีสิ่งใดที่เป็นเท็จก็ฟ้องกลับก็เท่านั้นเอง