posttoday

"บิ๊กตู่"นำครม.นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง ตรวจความพร้อม 15 ธ.ค.นี้

11 ธันวาคม 2563

นายกฯ นำครม.เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ ทดสอบรถไฟสายสีแดง 15 ธ.ค. นี้ ตรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการประชาชนในปี 64

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.63 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมนำคณะรัฐมนตรีทั้งคณะตรวจเยี่ยมสถานีกลางบางซื่อ ดูความพร้อมทดลองการเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ- สถานีดอนเมือง-สถานีกลางบางซื่อ ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ เพื่อตรวจสอบความพร้อมงานบริการก่อนเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการเต็มรูปแบบในปี 2564

นายอนุชา กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อเมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน สามารถเปลี่ยนถ่ายการเดินทางจากระบบราง ทั้งรถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบิน และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเขียว สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน เชื่อมต่อการเดินทางของระบบรางอื่น ๆ เช่น รถไฟฟ้ามหานคร หรือ MRT รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสู่ภูมิภาค รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมทั้งเชื่อมโหมดการเดินทางในรูปแบบอื่น ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารของ บขส. สถานีรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ด้วย ซึ่ง ปัจจุบันการก่อสร้างตัวสถานีมีความคืบหน้าแล้ว 99.8% ส่วนงานติดตั้งระบบควบคุมและจัดหาตู้รถไฟฟ้า คืบหน้า 89.1 % คาดว่าสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต จะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างย่านใจกลางเมืองกับย่านชานเมืองให้รวดเร็วมากขึ้น สามารถถ่ายเทผู้โดยสายจากท้องถนนเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่สะดวกและปลอดภัยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากสถานีต้นทางบางซื่อถึงสถานีปลายทางรังสิตในระยะเวลา 30 นาทีด้วยความเร็ว 120 กม. ต่อชั่วโมง สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารจากรังสิตสู่บางซื่อไม่น้อยกว่า 272,500 คน/วัน ปัจจุบันได้เริ่มวิ่งทดสอบมาระยะหนึ่งแล้วและเปิดทดสอบเสมือนจริงเดือนมีนาคม 2564 จากนั้นจะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์ในเดือนพฤศจิกายน 2564

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ใส่ใจความก้าวหน้าโครงการสถานีรถไฟกลางบางซื่อมาตลอด ต้องการเปลี่ยนโฉมหน้าระบบคมนาคมขนส่งประเทศไทยให้ทันสมัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถดินทางสัญจรได้สะดวกและปลอดภัย แก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ซึ่งการพัฒนาระบบรางเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คมนาคมที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้วางไว้ และมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นจริง