posttoday

มติพปชร.ให้รับร่างแก้ไขรธน."รัฐบาล-ฝ่ายค้าน"ของไอลอว์ส่อปิ๋ว

16 พฤศจิกายน 2563

ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้านเปิดทางตั้ง สสร. ส่วนร่างของไอลอว์ขอฟังการอภิปรายก่อน ยันมีม็อบมากดดันไม่มีผลต่อการลงมติ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการประชุมพรรคโดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคและประธานวิปรัฐบาล ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อกำหนดท่าทีของพรรคต่อการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17-18 พ.ย.เพื่อพิจารณาลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่1 ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการทั้ง 6 ฉบับที่พิจารณาเสร็จแล้ว

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมว่า พรรคพลังประชารัฐมีมติยืนยันตามมติวิปรัฐบาล คือ รับหลักการในร่างที่ 1 ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะเป็นผู้เสนอ และร่างที่ 2 ของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลและคณะเป็นผู้เสนอ ส่วนร่างที่ 3-6 งดออกเสียง เพราะเนื้อหาครอบคลุมเหมือนกับร่างที่ 1 และ 2 สำหรับร่างที่ 7 ของกลุ่มไอลอว์ จะขอฟังจากสมาชิกทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. ก่อนจะตัดสินใจในการลงมติอีกครั้ง ยืนยันว่า เราเปิดกว้างให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นโดยยึดหลักของความถูกต้อง และต้องดูจากความต้องการของประชาชนทั้งประเทศมากกว่าความเห็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ผู้สื่อข่าว ถามถึงแรงกดดันของกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีผลต่อการลงมติหรือไม่ น.ส.พัชรินทร์  กล่าวว่า เราต้องทำหน้าที่ตามกระบวนการของรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งต้องพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามหลักการ ยึดเหตุผลและความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยพรรคพลังประชารัฐ เราย้ำจุดยืนว่า เราจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ แบ่งเวลาการพิจารณา โดยวันที่ 17 พ.ย. จะเริ่มต้นพิจารณา 09.30 น. พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ทั้ง 6 ฉบับ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง จากนั้นจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ โดยจะไม่มีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ร่างก่อนหน้านี้เพราะมีการอภิปรายไปก่อนหน้านี้แล้วในวันที่ 23-24 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยวุฒิสภาจะใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลใช้เวลารวมกัน 5 ชั่วโมง ขณะที่ ผู้ชี้แจงของไอลอว์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยจะใช้เวลาพิจารณาทั้งหมดรวมเวลาของประธานสภาด้วย 17 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นในวันที่ 17 จะใช้เวลาพิจารณา 13-14 ชั่วโมง ขณะที่วันที่ 18 จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นการอภิปรายต่อเนื่องประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นโหวตลงมติใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง โดยให้ส.ส.และส.ว.ยืนขึ้นแสดงตนโหวต 1 คน ลงมติ 7 ฉบับในคราวเดียว เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นภายในช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย.นี้

นายวิรัช กล่าวยืนยันว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้อู้หรือยื้อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหากมีการลงมติในวันที่ 23-24 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็คาดว่าจะไม่ผ่านแน่นอน แต่ภายหลังได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็สามารถมีการทำความเข้าใจ ชี้แจงเหตุผลและอะไรที่เป็นจุดอ่อนก็นำไปพิจารณาในวาระ 2-3 ต่อไป ดังนั้นจึงเชื่อว่าในการลงมติร่างที่ 1 ของพรรคร่วมฝ่ายค้านและร่างที่ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาลก็จะลงมติรับหลักการ ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 3-6 ก็งดออกเสียง ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์ก็ขอฟังการชี้แจงก่อน

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของส.ส.และส.ว.ไม่รู้สึกกดดันต่อผู้ชุมนุมทั้งฝ่ายหนุนและฝ่ายค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะสมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐพร้อมทำหน้าที่ด้วยเหตุด้วยผล