posttoday

ตร.จ่อเอาผิดผู้ชุมนุม ขัดขวาง-ทุบรถควบคุมผู้ต้องขัง

31 ตุลาคม 2563

บช.น.เตรียมดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กรณีทุบรถควบคุมผู้ต้องขัง เตือนปล่อยข่าวใช้หมายจับหมดสภาพ มีความผิดตามพรบ.คอมพ์ จัดกำลัง 8 กองร้อยดูแลงานลอยกระทง- ชุมนุม มธ.

เมื่อวันที่ 31 ตค. 63 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงเหตุการณ์การชุมนุม เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณหน้า สน.ประชาชื่น และมีการทุบรถควบคุมผู้ต้องขัง พยายามชิงตัวผู้ต้องหา และกีดขวางการจราจร ว่า ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบมีความผิดข้อหา "ทำลายทำให้เสียทรัพย์ซึ่งทรัพย์ทางราชการ" และดูพฤติกรรมว่าเข้าข่ายความผิด ตามมาตรา 215 "สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่ยวายในบ้านเมือง หรือก่อให้เกิดเหตุร้ายในบ้านเมือง" หรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานไปถึงมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีแน่นอน

ส่วนการรักษาตัวของ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ได้มีกำลังตำรวจในพื้นที่เฝ้าดูแลความเรียบร้อย ยืนยันตำรวจดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยยังมีหมายอื่นที่ต้องอายัดตัว พอเริ่มดำเนินคดีแล้วไม่สามารถหยุดได้ ฉะนั้นแล้วคดีต้องสิ้นสุดที่ศาลเท่านั้น หลังจากนี้จะมีหมายอื่นตามมาอีก ตราบใดที่ยังทำความผิดเรื่อยๆ ขณะนี้มีประมาณ 80 กว่าหมาย

พล.ต.ต.ปิยะ ยืนยันว่า กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย ว่ามีตำรวจใช้กำลังทุบตีกับผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บ และหมายจับหมดสภาพนั้น ไม่เป็นความจริง มีการบิดเบือนข้อมูล ซึ่งผู้ที่แชร์ข้อมูลต่อ เพื่อสร้างความปลุกระดม ให้เกิดความวุ่นวาย ถือว่ามีความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560 มาตรา 14 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จึงขอให้ประชาชนอย่าเผยแพร่และส่งต่อ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจได้รับโทษตามกฎหมาย

รองผบช.น. กล่าวถึงการจัดเตรียมกำลังในการดูแลความปลอดภัย เทศกาลลอยกระทง รอบๆพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ได้จัดเจ้าหน้าที่ จำนวน 7 กองร้อย และ ตำรวจควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย พบข้อมูลว่าจะมีการจัดกิจกรรมประมาณ 83 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร แต่มีจุดสำคัญ 8 จุดหลักที่ จะต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น บริเวณใต้สะพานพระราม 8, ไอคอนสยาม, สวนลุมพินี, เอเชียทีค และโดยเฉพาะท่ามหาราช ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เนื่องจากวันนี้มีพิธีพระราชทานปริญาบัตร โดยจัดเจ้าหน้าที่ ตั้งศูนย์ปฎิบัติดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากพบข้อมูลการข่าวว่าอาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาจัดกิจกรรมบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเส้นทางการจารจรรอบสนามสนามหลวง ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการเคลื่อนไหวบริเวณไหน แนะนำประชาชนควรหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบสนามหลวง แต่สามารถเลี่ยงใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลางได้ รวมทั้งสามารถใช้สะพานพระปิ่นเกล้าได้ตามปกติ