posttoday

"ราเมศ" ป้อง"ชวน" อัด "เสรีพิสุทธิ์" ประชาชนดูออก ระหว่างขี้ไก่กับเพชร

28 ตุลาคม 2563

โฆษกปชป. ป้อง "ชวน" อัด "เสรีพิสุทธิ์" ระหว่างขี้ไก่กับเพชร เชื่อประชาชนดูออก

เมื่อวันที่ 28 ตค. 63 นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช กล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในลักษณะว่าหมดศรัทธานายชวน หลีกภัย ไม่เชื่อถือ ทำให้คนดีในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกหมดนั้นว่า เป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรง นายชวนทำหน้าที่ประธานรัฐสภาตรงไปตรงมาวินิจฉัยให้นายเสรีถอนคำพูด หลักการคือประธานมีอำนาจในการวินิจฉัย เมื่อมีการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เมื่อวินิจฉัยให้นายเสรีพิสุทธิ์ถอนคำพูดเมื่อไม่ถอนก็เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ไม่ควรที่จะแถลงข่าวต่อด้วยถ้อยคำที่กล่าวหาโจมตีประธานรัฐสภาให้เกิดความเสียหาย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์หมดศรัทธาเพราะนายชวนยึดหลักการ ยึดข้อบังคับ ถึงแม้จะเป็นเพียงความคิดของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ แต่อยากจะบอกว่าการที่ประชาชนเกิดความศรัทธานายชวนนั้น มาจากการทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีใครเชื่อหรือคิดตามคำพูดของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ แต่ถ้าพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ไปยืนถามอยู่หน้ากระจก แน่นอนว่าปากของคนที่อยู่ในกระจกก็จะบอกว่าพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์คือนักการเมืองที่ดีที่สุด จึงอยากให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์เชื่อในกระจก เพราะกระจกคงไม่อยากมีชีวิตเพราะถ้ามีชีวิตเหมือนมนุษย์ก็ต้องตอบไปตามความจริงและคงจะแตกละเอียด

ส่วนคนที่ลาออกไปจากพรรคฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเพราะนายชวน แต่เพราะคนที่ลาออกไปนั้นเพราะเขาตัดสินใจในทางการเมืองเอง ซึ่งพรรคฯ ก็เคารพในการตัดสินใจ แต่นายชวน หลีกภัย คือเสาหลักของพรรค คนที่ออกจากพรรคไปจะรู้ดี

ส่วนที่มีการกล่าวว่าขอให้ประชาชนตัดสินระหว่างประธานสภาฯ กับพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ใครทำประโยชน์ให้กับประเทศมากกว่ากัน และบอกว่าเงินซื้อคนอย่างตนไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ขี้ข้าเผด็จการนั้น นายราเมศกล่าวว่า ก็เป็นการใช้คำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าออกมาจากปากของอดีต ผบ. ตร. ที่ควรมีหลักการในการพูด เรื่องใครทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากกว่ากันนั้น คงไม่ต้องถามประชาชนเพราะประชาชนทั้งประเทศรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร เหมือนบอกให้คนเชื่อว่าขี้ไก่มีราคามากกว่าเพชร ไม่ต้องมีภาพประกอบประชาชนก็รู้ว่าเป็นอย่างไร

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการกล่าวหาในลักษณะว่านายชวนเป็นขี้ข้าเผด็จการนั้น ก็ต้องถามกลับว่า ถ้าการยึดมั่นในระบบรัฐสภา เป็น ส.ส.ที่มาจากประชาชน 16 สมัย กับการเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ที่มาจากการเลือกตั้งกับการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย เป็นประธานสภา 2 สมัย เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ไม่มีตำแหน่งใดที่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการ และได้ทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศมาโดยตลอด เป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ไม่จำเป็นว่าต้องมีตำแหน่งจากฝ่ายไหน หากเป็นนักการเมืองที่ดีสามารถทำหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้หมด นายชวนย้ำเสมอว่าเป็นหนี้ประชาชน การทำงานงานรับใช้ประชาชนและประเทศคือสิ่งที่ตั้งใจทำมาตลอดชีวิตของการเป็นนักการเมือง นายชวนไม่ได้เป็นขี้ข้าเผด็จการเหมือนที่นายเสรีพิสุทธิ์พูดแต่เป็นผู้ที่อุทิศตนทำงานให้กับประชาชนและประเทศด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต

นายราเมศ กล่าวว่า เหตุที่มีความจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเมื่อนายเสรีพิสุทธิ์พูดถึงนายชวนแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย ในฐานะที่ตนเป็นเลขานุการประธานรัฐสภา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องบอกพี่น้องประชาชนถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้