posttoday

ดีเอสไอเด้งรับ "วีระ"ร้องสอบเอกสารสิทธิ์ "ศรีพันวา"

25 กันยายน 2563

อธิบดี ดีเอสไอ เด้งรับตั้งคณะทำงานฯตรวจสอบโฉนด- ประสานกรมที่ดินฯดูโฉนดโรงแรมศรีพันวาใช้เอกสารฯประเภทใด หลัง“วีระ สมความคิด”หอบหลักฐานร้องสอบ”ศรีพันวารีสอร์ท-ฟื้นคดี”ธวัชชัย อนุกูล”ออกเอกสารสิทธิเท็จฯที่ดินภูเก็ตปี 41-44 ด้าน ลูกสาวเจ้าของที่ดินเก่า ยืนยัน "ศรีพันวา" มีโฉนดถูกต้องก่อนขาย

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น นำสำเนาภาพถ่ายอาคารที่พักของโครงการศรีพันวารีสอร์ท เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายธวัชชัย อนุกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน 7ฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจ.ภูเก็ต จำนวน 167 แผ่น มายื่นต่อพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษและดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับผู้ที่ออกเอก สารสิทธิโดยผิดกฎหมายและผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิอดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และตามกฎหมายที่ดิน 2497

นายวีระ กล่าวว่า ต้องการให้ดีเอสไอตรวจสอบการได้มาของเอกสารสิทธิที่ดินโครงการศรีพันวา รีสอร์ท ตั้งแต่ก่อนจะมีการออกน.ส 3 ก และนำมาขายให้กับโครงการศรีพันวาว่า ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเดิมพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านเรียกว่า” ป่าแก่” เป็นพื้นที่ ภบท. 5 ซึ่งชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันของ ในอดีตเคยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวจำนวน 10 ครอบครัว ซึ่งอยู่มาเมื่อ 40 ปีที่แล้ว และได้ไปขอยื่นเรื่องขอออกเอกสารสิทธิที่ดิน แต่ไม่ได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ และส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่กองทัพเรือกันไว้เพื่อใช้ประโยชน์ จึงอยากให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิน.ส.ก หรือโฉนดที่ดินของโครงการศรีพันวา

นายวีระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติของนายธวัชชัย เจ้าหน้าที่ที่ดินที่มาเสียชีวิตอยู่ที่ดีเอสไอขณะถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยนายธวัชชัยถูกตรวจสอบในมาตรา 157 เจ้าหน้าที่รัฐปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารสิทธิที่ดิน ในจ.ภูเก็ต ช่วงที่ยังรับราขการในปี 2541-2544 โดยเฉพาะที่ ต.รัษฎา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งพบมีว่ามีสภาพภูมิประเทศเหมือนที่ตั้งโครงการศรีพันวาฯ คือ มีการออกโฉนดบนพื้นที่ภูเขาซึ่งมีความลาดชันเกิน 35 องศา ประเด็นนี้ก็ต้องการให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบวาส ชาวบ้านคนแรกที่ไปขอออกเอกสารสิทิออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ที่ดินที่ออกน.ส. 3 ก หริอโฉนดที่ดิน มีชื่อของนายธวัชชัย อนุกูล หรือไม่

“คดีนี้นี้ความสลับซับซ้อน และมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เป็นคดีที่มีผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมได้นำภาพถ่ายของบุคคลสำคัญซึ่งถ่ายภาพคู่กับนักธุรกิจแนบส่งให้ดีเอสไอด้วย นักธุรกิจจะชอบถ่ายภาพกับบุคคลที่อำนาจแล้วนำไปเผยแพร่เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเกิดความเกรงใจว่า เป็นคนไม่ธรรมดารู้จักผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่ผ่านมาโครงการศรีพันวารีสอร์ท เคยถูกตรวจสอบหลายครั้ง แต่มันไปไม่ถึง เดินต่อไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐเกรงใจ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาได้” เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า เบื้องต้นดีเอสไอจะรับเรื่องไว้สอบสวนและจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป แต่จากการพูดคุยรายละเอียดกับนายวีระเบื้องต้นทราบเอกสารที่นำมายื่นให้ดีเอสไอมีรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะที่ดินที่อยู่บนเชิงเขา ซึ่งดีเอสไอจะรีบดำเนินการตรวจสอบให้ตามคำขอ อย่างไรก็ตาม คดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการบุกรุกที่ดินจ.ภูเก็ต ตนเคยลงพื้นที่กับพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ สมัยอยู่กองปราบด้วยกันจนย้ายมาอยู่ดีเอสไอก็ตรวจสอบอีกหลายคดีที่อยู่ในพื้นที่จ.ภูเก็ต ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรับผิดชอบคดีสิ่งแวดล้อมทราบว่ายังไม่เคยมีใครยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์โรงแรมศรีพันวา

ส่วนโครงการนี้มีการออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบหรือไม่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอเอกสารจากกรมที่ดินทั้งหมด และนำมาตรวจสอบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ในลักษณะใด ที่ผ่านมาการออกเอกสิทธิ์ที่ดินบริเวณนี้มีทั้งการใช้ สค.1 และการเดินสำรวจ แต่ตนยังไม่ทราบว่าเอกสารสิทธิ์ของโรงแรมศรีพันวาเป็นการออกโฉนดลักษณะไหน ต้องรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งนี้ แม้เอกสารบางส่วนอาจจะขาดหายไป แต่เรายืนยันจะพยายามทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า โครงการดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมนำเงินไปลงทุนในโครงการดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อขั้นตอนการตรวจสอบหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ต้องดูว่าข้อเท็จจริงปรากฎอย่างไร ซึ่งการลงทุนจะทำได้หรือไม่ได้ยังไม่ทราบ ดังนั้น การจะตอบเร็วๆ ยังไม่ได้ต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน

ด้าน นางสาวขวัญใจ คุ้มบ้าน บุตรสาวของนายเสน คุ้มบ้าน หนึ่งในผู้ครอบครองที่ดินก่อนขายเปลี่ยนมือสร้างโรงแรม เผยว่า ที่ดินบริเวณแหลมพันวาเกือบทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรม ยาวมาจนถึงพื้นที่ของทัพเรือภาคที่ 3 ในอดีตเคยเป็นของต้นตระกูลคุ้มบ้านและญาติพี่น้อง ในส่วนของตนมีจำนวน 12 ไร่ เป็นจุดที่ตั้งอาคารหลังแรกของโรงแรม มีเอกาสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย เพราะจำได้ว่า ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.4 อายุประมาณ 10 ขวบ ประมาณปี 2527 เป็นผู้อ่านข้อมูลทั้งหมดให้กับพ่อตอนที่ทำหนังสือสัญญาซื้อขาย เพราะพ่ออ่านหนังสือไม่ออก

นางสาวขวัญใจ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ โรงแรมมีพื้นที่ครอบครองเนื้อที่รวม 52 ไร่ ซึ่งอดีตหากไล่เรียงพื้นที่ครอบครองจากทางเข้าไปถึงปลายแหลม เคยเป็นของ นายเสน (พ่อ), นายสัน คุ้มบ้าน (อา) ถัดไปเป็นของนายสนิท คุ้มบ้าน และคนอื่นอีกหลายคน ซึ่งอดีตครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวเกือบทั้งอ่าว ก่อนแบ่งพื้นที่ยกให้สร้างหน่วยงานราชการหลายแห่ง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศ พื้นที่โดยรวมของแหลมในอดีต ไม่ได้เป็นป่า มีการใช้ประโยชน์ ปลูกพืชต่างๆ บริเวณส่วนปลายแหลม มีบ้านเรือนของโต๊ะอูเส็น กับโต๊ะอูหมาด ตั้งอยู่ ซึ่งลูกหลานทั้งสองก็ยังอาศัยอยู่ใกล้ๆ โรงแรมในปัจจุบัน สามารถสอบถามความจริงได้ทั้งหมด

ดีเอสไอเด้งรับ "วีระ"ร้องสอบเอกสารสิทธิ์ "ศรีพันวา"

ภาพ เฟซบุ๊ก วีระ สมความคิด