posttoday

เคาะกรอบเวลาอภิปรายแก้รธน.ให้ฝ่ายละ 7 ชม. ลงมติรวดเดียว6ญัตติ

22 กันยายน 2563

วิป 3 ฝ่ายสรุปกรอบเวลาอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เวลาฝ่ายละ 7 ชั่วโมง 20 นาที ลงมติด้วยวาจารวดเดียว 6 ญัตติ เสร็จไม่เกินเที่ยงคืนวันที่ 24 ก.ย.63

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63 ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่ายได้ข้อสรุปกรอบการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยจัดสรรเวลาอภิปรายฝ่ายละ 7 ชั่วโมง 20 นาที ลงมติด้วยวาจารวดเดียว 6 ญัตติ และต้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยไม่เกิน 24.00 น.ของวันที่ 24 ก.ย.นี้

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การพิจารณาแต่ละวันจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09:30 น. โดยคืนแรกจะจบในเวลา 01:30 น.

ส่วนคืนที่ 2 จะอภิปรายให้เสร็จภายในเวลา 18:00 น.โดยพิจารณารวมกันทั้ง 6 ญัตติ ซึ่งทั้ง 3 ฝ่ายได้เวลาจัดสรรเวลาอภิปรายเท่ากันคือฝ่ายละ 7 ชั่วโมง 20 นาที แล้วดำเนินการลงมติคราวเดียว โดยวิธีการขานชื่อแล้วให้สมาชิกรัฐสภาลงมติด้วยวาจาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับญัตติใดบ้าง

ขณะที่ การตั้งคณะกรรมาธิการสัดส่วนคนนอกแล้วแต่โควตาของแต่ละฝ่ายว่าจะให้คนนอกเข้ามาเป็นกรรมาธิการจำนวนเท่าใด แต่เบื้องต้นยังไม่มีการคุยท่าทีหรือชักชวนเกี่ยวกับการลงมติ

ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า การพิจารณาทั้ง 6 ญัตติจะพิจารณารวมกัน แต่ยังไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับท่าที โดยวันพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น.พรรคร่วมรัฐบาลจะหารือกันภายในเกี่ยวกับการกำหนดท่าทีการพิจารณาไปจนถึงการลงมติดังกล่าว

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า วิธีการลงมติโดยจะเรียกชื่อสมาชิกรัฐสภาแล้วให้ลงมติด้วยวาจาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยรายฉบับ โดยจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นและลงมติไม่เกินเที่ยงคืนวันที่ 24 ก.ย.63 หากผ่านรับหลักการแล้วก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 45 คน ประกอบด้วย สัดส่วนวุฒิสภา 15 คน พรรคการเมืองขนาดใหญ่ 8 คน และลดหลั่นกันตามสัดส่วนจำนวนสมาชิกรัฐสภาของแต่ละพรรคการเมือง ส่วนกำหนดวันแปรญัตติก็แล้วแต่ที่ประชุมจะตกลงร่วมกัน

ส่วนกรณีที่กลุ่มโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) จะเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายชวน กล่าวว่า ภาคประชาชนต้องหารายชื่อมาให้ครบ 50,000 คน โดยเจ้าหน้าที่จะพยายามตรวจให้เร็วกว่ากรอบเวลา 45 วัน แต่อย่างไรก็ไม่สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้ทันวันที่ 23-24 ก.ย.นี้