posttoday

"กกต"อัด“บิ๊กป๊อก”อย่าโยนบาปปมเลือกตั้งตั้งท้องถิ่น

11 สิงหาคม 2563

“ปกรณ์- ฐิติเชฎฐ์”แถลงกกต.พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่นนานแล้วซัดมท.อย่าโยนบาปให้เป็นจำเลยสังคม ท้าให้รัฐบาลแจ้งภายใน 1 เดือนจะจัดเลือกตั้งเสร็จในปี 63 ลั่นหากทำไม่ได้พร้อมพิจารณาตัวเอง

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2563 นายปกรณ์ มหรรณพ และ นายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ร่วมกันแถลงตอบโต้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย(มท.1) ที่ระบุ ยังไม่พร้อมเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากต้องรอ กกต.ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ว่า รมว.มหาดไทย น่าจะต้องตรวจสอบในองค์กร ที่ท่านรับผิดชอบว่า พร้อมหรือไม่สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใช่ มากล่าวอ้างถึง กกต.

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสำนักงาน กกต. แถลงยืนยันมาตลอดตั้งแต่เม.ย.63 ว่า พร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่กระทรวง มหาดไทยมี เอกสารลงวันที่ 9 ก.ค.2563 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ยังไม่พร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา 3 แห่ง จ.ระนองและลพบุรีอย่างละ 1 แห่ง

"สำนักงาน กกต. แถลงและมีข้อมูลยืนยันให้สื่อมาตลอด แต่รมว.มหาดไทย กล่าวเช่นนี้ทำให้กกต.ตกเป็นจำเลยของสังคมว่า ไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เรียนไปยังรมว.มหาดไทย และรัฐบาลว่า หากมีความจริงใจในการกระจายอำนาจและการเลือกตั้งท้องถิ่น ขอให้แจ้งมายังกกต.เพื่อให้กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง โดยขอให้แจ้งมาภายใน 1 เดือนนับแต่วันนี้ เพื่อให้กกต.ดำเนินการประกาศวันเลือกตั้ง และจัดการเลือกตั้งให้เสร็จเรียบร้อยภายในปีนี้ หาก กกต.ได้รับแจ้งแล้วไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งให้เรียบร้อยในปีนี้ได้ ผมยินดีรับผิดชอบและจะพิจารณาตัวเอง"นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าว อีกว่า กกต.ทั้ง 7 คนมาตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะตนเองมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เราไม่ได้มาจากรัฐบาลหรือ คสช. ดังที่นักวิชาการหรือนักการเมืองหลายพรรคกล่าวอ้าง

"เราไม่โต้ตอบเพราะเป็นสิทธิที่ท่านจะมีความเห็นและวิจารณ์ได้ แต่บางครั้งต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา เราทำตามกฎหมายมาตลอด แต่เมื่อถูกกล่าวอ้างเช่นนี้คิดว่า ไม่เป็นธรรมจึงต้องเรียกร้องในส่วนนี้” นายปกรณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า ในส่วนการแบ่งเขตท้องถิ่นขณะนี้แล้วเสร็จทั้งอบจ.และเทศบาลใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า อบจ.เสร็จตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 พร้อมดำเนินการทั้งหมด ส่วนเทศบาลถ้ารวมการพิจารณาของ กกต. ในวันนี้ จะเหลือไม่เกิน 4 จังหวัด ซึ่งคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะเสร็จทั้งหมด

สำหรับการอบรมเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 28 กำหนดให้อบรมก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน สมมุติว่า กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นในเดือนธ.ค. 63 ก็จัดให้เดือน พ.ย. มีเวลาอบรมเจ้าหน้าที่มากพอ อย่างเลือกตั้ง ส.ส. สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เราจัดอบรมกรรมการประจำหน่วยและผู้เกี่ยวข้องก่อนวันเลือกตั้งเพียงแค่ 10 วันเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนในการปฏิบัติ ส่วนจะเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบใดก่อน เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้รัฐบาลแจ้งให้ กกต. ทราบ แต่สำหรับกกต.ขณะนี้เราพร้อมตลอด

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากฝากไปยังรัฐสภาถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้แก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กกต. เพราะรัฐสภาเป็นผู้บัญญัติกฎหมาย ประสงค์และอยากให้การเลือกตั้งสุจริตและเป็นธรรมอย่างไรขอให้บัญญัติให้ชัดเจน เช่น ในเรื่องแบ่งเขต อยากให้เป็นธรรมอย่างไร อยากให้จำนวนประชากรใกล้เคียงกันอย่างไร ขอให้บัญญัติให้ชัดเจน รูปแบบบัตรเลือกตั้งอยากให้เป็นอย่างไรให้เขียนในกฎหมายมาเลย ปัญหาบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่มาหลังเริ่มนับคะแนนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 114 กำหนดห้ามนับและให้ถือเป็นบัตรเสีย กกต.ไม่ได้เปิดดู เพราะกฎหมายให้นับ แต่ถ้าจะให้มีการนับยินดีปฏิบัติตามขอให้กำหนดเป็นกฎหมาย

ขณะเดียวกันการประกาศผลการเลือกตั้งตามมาตรา 127 ที่กำหนดให้กกต.มีเวลาพิจารณา 60 วัน และต้องประกาศให้ได้ร้อยละ 95 ของจำนวนส.ส.ทั้งระบบที่มี ท่านอยากแก้ไขให้เป็นอย่างไร บัญญัติมาเลย เพราะบางจังหวัดมีส.ส.คนเดียว หน่วยเลือกตั้งมีไม่มาก เลือกตั้งแล้ววันรุ่งขึ้นสามารถประกาศเลย แต่ก็ติดกฎหมายมาตรานี้ ไม่สามารถประกาศได้ นี่คือหลักการต้องแก้ไข ที่สำคัญที่สุดการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อตามมาตรา 128และมาตรา 129 ต้องการอย่างไรบัญญัติให้ชัดเจนจะได้ไม่เป็นข้ออ้างของหลายฝ่ายว่ามีหลายสูตร

“นักคณิตศาสตร์ บอกว่า อย่างนี้เป็นธรรม นักการเมืองบอกว่า อย่างนี้เป็นธรรม แต่กกต.เห็นว่าความเป็นธรรมนั้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย เราพร้อมทำตามกฎหมายท่านประสงค์อย่างไร บัญญัติให้ชัดเจนจะได้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป นี่คือประโยชน์ของบ้านเมือง มีหลายเรื่องราวที่เราได้รับผลกระทบแต่เราไม่โต้ตอบ เรายอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น แต่อยากให้ท่านทุกคนยึดคำสอนของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ที่พูดไว้ชัดเจนว่า ที่บ้านเมืองมีปัญหาและวุ่นวาย เพราะมีแต่คนพูด มีแต่คนแสดงความคิดเห็นโดยศึกษาระเบียบและกฎหมายว่าบัญญัติไว้ว่าอย่างไร ถ้าท่านศึกษาข้อกฎหมายบัญญัติไว้อย่างไร ปัญหาเหล่านี้จะน้อยลงมาก”

นอกจากนี้เมื่อถามว่า แสดงว่าการพิจารณาของ กกต. ที่ผ่านมาเช่นเรื่องการแบ่งเขต มีแรงบีบจากฝ่ายการเมืองใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่มี เราทำงานโดยอิสระ แต่กฎหมายบางส่วนไม่ชัดเจนทำให้เกิดปัญหาในการตีความในสังคม ซึ่งเรารวบรวมและศึกษาความเห็นที่มีแล้วมาทำให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นธรรมที่สุด

สำหรับ การแถลงของนายปกรณ์ และนายฐิติเชฎฐ์ เป็นการแถลงด่วนโดยไม่มีการแจ้งวาระล่วงหน้า เพราะไม่พอใจการที่พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท.ชี้แจงต่อสภาโดยอ้างความไม่พร้อมของ กกต. จึงต้องมีการเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวนายปกรณ์ ก็ได้นำเอกสารของกระทรวงมหาดไทยฉบับลงวันที่ 9 ก.ค. ที่ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มีถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระนอง และลพบุรี เพื่อให้เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งมายืนยัน และแจกต่อสื่อมวลชนว่า ความไม่พร้อมเกิดจากกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่ กกต.