posttoday

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองหนุนนักเรียน-นักศึกษาชุมนุม

25 กรกฎาคม 2563

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง แถลงการณ์หนุนกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาจัดชุมนุมถือเป็นสิทธิและเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย ใครถูกดจับดำเนินคดีพร้อมช่วยเหลือทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง สนับสนุนการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน โดยมีเนื้อหาดังนี้

การชุมนุมทางการเมืองกำลังขยายตัวอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ผู้เข้าร่วมมีทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนกลุ่มต่างๆ สถานที่จัดการชุมนุมมีทั้งสถานศึกษา พื้นที่สาธารณะ และบริเวณที่มีความสำคัญทางการเมือง รูปแบบการชุมนุมมีความหลากหลาย มีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแสดงออกข้อเรียกร้อง ความคับข้องใจ ตลอดจนความใฝ่ฝันและจินตนาการใหม่ เป็นการตื่นตัวทางการเมืองของคนในประเทศที่กระจายไปทุกกลุ่มทุกเพศสภาพ และทุกช่วงวัย อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากต่างมีความตระหนักร่วมกันในปัญหาที่ประเทศกำลังประสบอยู่ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน

ทว่าขณะเดียวกันก็มีความพยายามหยุดยั้งการชุมนุมดังกล่าวในหลายลักษณะ นับตั้งแต่การอ้างข้อกฎหมายห้ามไม่ให้มีการชุมนุม การออกประกาศไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยและโรงเรียน หรือการกดดันผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นอธิการบดีหรือคณบดีของมหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงเรียนหรือครูฝ่ายปกครองของโรงเรียนมัธยม ให้หยุดยั้งการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา และนักเรียน ขณะเดียวกันก็ข่มขู่คุกคามผู้จัดกิจกรรมให้ยกเลิก และหากไม่ปฏิบัติตามก็จะมีการตั้งข้อหาดำเนินคดีตามมา ด้วยหวังว่าจะก่อให้เกิดความเข็ดหลาบพร้อมกับปรามผู้จะทำตามในเวลาเดียวกัน

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่สามารถอ้างกฎหมายหรือระเบียบใดมาละเมิดได้ จึงขอแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ดังกล่าวดังนี้

1. เจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ขัดขวางการชุมนุมที่เกิดขึ้นโดยสงบและปราศจากอาวุธ ไม่ว่าจะด้วยการอ้างข้อกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการใช้กำลังซึ่งหน้า รวมไปถึงการข่มขู่คุกคามในลักษณะต่างๆ ทั้งที่ผ่านผู้บริหารสถานศึกษาและต่อตัวนักเรียน นิสิต นักศึกษา อาจารย์ หรือประชาชนผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือต้องละเว้นการข่มขู่ในรูปแบบใดๆ ที่กระทำต่อนักเรียนที่ยังอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อนักเรียนโดยตรง หรือกดดันผ่านผู้ปกครอง หรือสถานศึกษาในทุกรูปแบบ

2. ผู้บริหารสถานศึกษาทั้งในระดมอุดมศึกษาและมัธยมศึกษา จะต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรม ในการทำให้สถานศึกษาเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพ โดยต้องไม่ขัดขวางหรือข่มขู่คุกคามการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมถึงอาจารย์ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นในรูปของการเสวนาทางวิชาการหรือว่าการชุมนุมโดยสงบ

3. เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ตั้งข้อหานักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่ชุมนุม และจะต้องยุติการดำเนินคดีที่มีก่อนหน้า

4. พ่อแม่ผู้ปกครองพึงส่งเสริมการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และยืนหยัดคุ้มครองและปกป้องสิทธิและเสรีภาพของเด็กนักเรียน เนื่องจากตอนนี้การคุกคามพุ่งเป้าไปที่เด็กนักเรียนที่เปราะบางต่อการถูกใช้อำนาจบังคับและลงโทษจากระบบโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองต้องไม่เป็นเครื่องมือในการระงับการแสดงออกหรือกลายเป็นเครื่องมือในการส่งต่อการใช้อำนาจเผด็จการ

คนส. พร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือนักเรียน นิสิต นักศึกษา อาจารย์ รวมทั้งประชาชนที่ประสบการขัดขวาง ข่มขู่คุกคาม รวมทั้งการตั้งข้อหาดำเนินคดีจากการชุมนุม ทั้งการสนับสนุนทางวิชาการ และปฏิบัติการภายใต้หลักประชาธิปไตยสากล การประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการประกันตัว ตลอดจนการสร้างเครือข่ายให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนต่างๆ หากต้องถูกดำเนินคดีการเมือง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่เป็นธรรมด้วยกัน

ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน