posttoday

เทพไทแจงปมอันดับรัฐบาลโกงตามข้อมูลโปร่งใสโลก

27 มิถุนายน 2563

"ผมทำหน้าที่ผู้แทนฯฝ่ายนิติบัญญัติ"เทพไท เคลียร์ปม อันดับโกงของรัฐบาลเลือกตั้งกับรัฐบาล คสช. พูดตามข้อมูลองค์กรโปร่งใสโลก

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายเรื่องแผนยุทธศาสตร์ชาติที่เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระรับทราบนั้น ตนได้อภิปรายแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ และได้นำสถิติดัชนีความโปร่งใสขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International-TI) มาเปรียบเทียบลำดับความโปร่งใสของรัฐบาลแต่ละชุด จนสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐบางคนนั้น ขอชี้แจงว่าการอภิปรายของตนเป็นการทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของฝ่ายบริหาร เมื่อมีการเสนอแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ในการอภิปรายเสนอแนะ และติชมไปข้อเท็จจริง ถ้าหากรัฐบาลไม่อยากให้มีการอภิปรายในเรื่องนี้ ก็ไม่ควรนำเข้ามาสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ส่วนข้อกล่าวหาว่าตนเองอยู่ ฝ่ายรัฐบาลไม่มีมารยาทในการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนั้น ตนขอชี้แจงว่า

1.การอภิปรายวิจารณ์แผนยุทธศาสตร์ชาติเป็นการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าอภิปรายผิดพลาดหรือพาดพิงให้รัฐบาล หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้รับความเสียหาย ส.ส.ทุกคนในสภาก็สามารถใช้สิทธิ์ท้วงติง หรือประท้วงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้

2.การทำหน้าที่ของตนเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และการอภิปรายก็อยู่ในกรอบของแผนยุทธศาสตร์ชาติ หากมีอภิปรายนอกประเด็นทำให้รัฐบาลเสียหาย ประธานที่ประชุม(นายชวน หลีกภัย) คงจะทักท้วงหรือให้ยุติการอภิปรายไปแล้ว

3.การนำสถิติดัชนีความโปร่งใส ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International-TI) ขึ้นมาเปรียบเทียบความโปร่งใสของรัฐบาลแต่ละชุด ก็เป็นข้อมูลทางวิชาการที่สามารถตรวจสอบได้ว่า ปี พ.ศ.2553 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ อยู่ในลำดับที่ 78 ปี พ.ศ.2556 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่ในลำดับที่ 102 และในปี พ.ศ.2559 และ พ.ศ.2562 สมัยรัฐบาล คสช.(พลเอกประยุทธ์)อยู่ที่ลำดับ 101

4.การอภิปรายเรื่องลำดับความโปร่งใสของรัฐบาลแต่ละชุด ตนได้เปรียบเทียบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับรัฐบาล คสช.ที่มาจากรัฐประหาร ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำและพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแต่ประการใด

จึงอยากจะให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐคนดังกล่าว ได้ไปทบทวนบทบาทการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรของตัวเองก่อนว่า ได้ทำหน้าที่ ส.ส.ได้สมบูรณ์แล้วหรือยัง เพราะเพิ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก ไม่ได้แสดงบทบาทในสภาผู้แทนราษฎรเลย ได้เป็น ส.ส. ก็เพราะโหนกระแสพลเอกประยุทธ์เข้ามา และถ้าหากจะท้วงติงการทำหน้าที่ของตนในสภาผู้แทนราษฎร ก็ควรนำไปพูดในสภาไม่ใช่ออกมาตีโพยตีพายข้างนอก เพื่อสร้างราคาค่างวดให้ตัวเองต่อผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น