posttoday

ฎีกายืนคุก 2 ปี 8 เดือน "วีระกานต์-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง-วิภูแถลง" บุกบ้านสี่เสาฯ

26 มิถุนายน 2563

ศาลฎีกาจำคุก "วีระกานต์-ณัฐวุฒิ-หมอเหวง-วิภูแถลง" แกนนำนปช.บุกบ้าน “ป๋าเปรม”สี่เสาเทเวศร์ คนละ 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีชุมนุมปิดล้อมบ้าน สี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 , นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน , นายวันชัย นาพุทธา , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปีเศษ อดีตประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 44 ปีเศษ เลขาธิการ นปช. และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช. และ นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทษช. เป็นจำเลยที่ 1-7

ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ , ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง , 215 , 216 , 297 , 298 ประกอบมาตรา 33 , 83 , 91

กรณีสืบเนื่องจากวันที่ 22 ก.ค.50 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ สนามหลวง ไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่1 ได้ใช้ ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ. ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

ซึ่งศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเดือน ม.ค.60 ว่า "4 แกนนำ นปช.” จำเลยที่ 4-7 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215วรรคหนึ่งและวรรคสาม , มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน

ส่วนของนายนพรุจ อดีตแกนนำพิราบขาว จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยโทษจำคุกทั้งหมดนั้นไม่รอการลงโทษ ไม่รอลงอาญา

ขณะที่จำเลยทั้ง 5 คน ยื่นฎีกาสู้คดี และได้ประกันตัวระหว่างฎีกาคนละ 500,000 บาท พร้อมถูกกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต

โดยเมื่อครั้งที่นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาครั้งแรก วันที่ 23 ก.ย.62 ปรากฏว่านายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูเเถลง , นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยปฏิเสธความผิด และขอต่อสู้คดี เป็นยื่นคำให้การใหม่ขอให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธ จึงต้องส่งสำนวนกลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

ซึ่งวันนี้ จำเลยทั้งสี่ เดินทางมาศาล พร้อมฟังคำพิพากษา โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษา นปช. , นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมมวลชน จำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ

ขณะที่แกนนำ นปช. ต่างให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมยอมรับผลคำพิพากษา และขอบคุณกำลังใจจากมวลชน ยืนยันจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ไม่ว่าจะมีอิสรภาพหรือไม่

โดย นายณัฐวุฒิ ได้ระบุว่า พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลทุกกรณี และวันนี้หากไม่มีอิสรภาพก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ และไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะมีคนรุ่นใหม่ออกมาต่อสู้ ส่วนตัวไม่ยอมรับการรัฐประหารและไม่เชื่อว่าอำนาจเผด็จการจะสร้างประชาธิปไตย และไม่เชื่อว่าจะนำพาบ้านเมืองไปทางที่ถูกต้องได้ ซึ่งตนเองไม่ได้ประสงค์ร้ายกับใครทั้งสิ้น ไม่ยอมรับที่คณะรัฐบาลทำในทางการเมือง ทั้งนี้ขอเปรียบเทียบการเมืองกับการแข่งขันฟุตบอลว่าจะต้องมีกติกาเป็นสากลและทุกฝ่ายแข่งขันโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมมิตรภาพเกิดขึ้น แต่ถ้าลงสนามที่กติกาเอื้อประโยชน์ต่อข้างใดข้างหนึ่งก็จะทำให้กองเชียร์ต้องมาลงสนามด้วย การเมืองไม่มีนกหวีดหมดเวลา ยังคงต้องต่อสู้กันต่อไป

สำหรับผลคำพิพากษาศาลฎีกานั้น ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1,4-7 มีพฤติการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นเรื่องร้ายเเรงที่จำเลยทั้งหมดขอให้ลงโทษสถานเบาเเละรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษนั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันนี้ได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งผลถือเป็นที่สุดแล้ว นายนพรุจ อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาวฯ จำเลยที่ 1 , นายวีระกานต์ อายุ 71 ปีเศษ อดีตประธาน นปช. จำเลยที่ 4 , นายณัฐวุฒิ อายุ 44 ปีเศษ เลขาธิการ นปช. จำเลยที่ 5 , นายวิภูแถลง อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช. จำเลยที่ 6 และ นพ.เหวง อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช. จำเลยที่ 7 ได้ถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำทันที เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดดังดล่าว