posttoday

“องอาจ” ฝาก "บิ๊กตู่" ดูแลใช้เงินกู้ 4 แสนล้านให้โปร่งใสไร้ทุจริต

22 พฤษภาคม 2563

รองหัวหน้าปชป. เสนอ 3 ข้อ ใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทอย่างมีประสิทธิภาพ ฝากนายกฯ ดูแลให้โปร่งใสไร้ทุจริต

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานส.ส.ปชป. กล่าวถึง การใช้จ่ายเงินกู้ตามพ.ร.ก.ที่จะใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม 400,000 ล้านบาทว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงการใช้เงินในส่วนนี้ว่าสัปดาห์หน้าเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองใช้จ่ายเงินกู้ 400,000 ล้านบาทจะประกาศกรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้านต่างๆ โดยจะกำหนดระยะเวลาให้หน่วยงานได้เสนอโครงการ งานนี้ตัดนักการเมืองออกไปเลยไม่มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง กรรมการกลั่นกรองที่เป็นข้าราชการประจำจะเป็นคนพิจารณาให้มีความโปร่งใส มีการกำกับดูแลที่ดี ซึ่งการที่นายสมคิดย้ำถึงการใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทว่าเป็นเรื่องของข้าราชการประจำพิจารณา ไม่มีนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง น่าจะเป็นการสื่อความหมายถึงความโปร่งใสไม่มีการทุจริต เพราะข้าราชการดำเนินการ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทุจริตไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของนักการเมืองเท่านั้น ข้าราชการก็มีการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย เหมือนอย่างกรณีเงินทอนวัดก็เป็นเรื่องที่มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเท่านั้น ไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าเมื่อตัดนักการเมืองออกไป มีแต่ข้าราชการประจำทำเรื่องให้เงินกู้ 400,000 ล้านบาท แล้วจะทำให้โปร่งใสจึงไม่แน่นอนเสมอไป ทั้งนักการเมือง ทั้งรัฐมนตรีล้วนแล้วแต่มีโอกาสทุจริตด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับจิตสำนักของแต่ละคนว่ามีมากน้อยแค่ไหน จะคิดถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองหรือคิดถึงประโยชน์ส่วนตัว ถ้านักการเมืองกับข้าราชการร่วมมือกันทุจริตก็ยิ่งไปกันใหญ่ ทำความเสียหายให้ประเทศชาติมหาศาล ถูกจับได้จนติดคุกติดตะรางทั้งนักการเมือง ทั้งข้าราชการประจำอยู่ขณะนี้ก็มีให้เห็นหลายกรณี

นายองอาจ กล่าวว่า ทั้งนี้ การใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทเพื่อประคับประคองพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นการใช้เงินกู้จำนวนมากที่ผูกพันกับคนไทยทุกคนต้องมีส่วนแบกรับหนี้จากเงินกู้นี้ร่วมกันด้วยรัฐบาลจึงต้องดำเนินการให้ดีมีความรอบคอบ รัดกุม โปร่งใส อย่าให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

การที่จะใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทอย่างมีประสิทธิภาพควรดำเนินบนพื้นฐาน 3 ประการดังนี้คือ1. กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องมีเป้าหมายเด่นชัด ครอบคลุมทุกมิติของการฟื้นฟู เพื่อเป็นฐานรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม2. มาตรการแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของกรอบนโยบายต้องชัดเจนไม่คลุมเครือจนอาจนำไปสู่การตีความเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ3.มีระบบการตรวจสอบที่จริงจัง โปร่งใส ไร้ข้อครหา ควรมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้เงินตามโครงการต่างๆ ต่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้

จึงขอฝากนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศลงมากำกับดูแลการใช้จ่ายเงิน 400,000 ล้านบาทนี้อย่างจริงจังให้มีการใช้เงินอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม อย่าปล่อยให้มีการทุจริตโดยเด็ดขาด