จตุพรเตือนรัฐบาลระวังปัญหาปากท้องทำเกิดม็อบคนหิวโหย
"จตุพร"ห่วงปัญหาปากท้องทำให้เกิดม็อบของคนที่หิวโหย หวั่นพฤษภา 35 จะกลับมาอีก
เมื่อ 17 พ.ค. 63 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ว่า วันที่17 พ.ค. 2563 ครบ 28 ปีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ประเด็นข้อเรียกร้องหลัก เมื่อ 28 ปีที่แล้วคือนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง และในเวลานั้น ประเทศไม่ได้มีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจหรือเศรษฐกิจปากท้อง แต่กระทบเรื่องประชาธิปไตย
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ 28 ปีผ่านมา เราได้ประชาธิปไตยที่แข็งแรงหรือไม่ ซึ่งตนสามารถตอบได้เลยว่า ลุ่มๆดอนๆ และยิ่งถอยห่างจากคำว่าประชาธิปไตย โดยเฉพาะปัจจุบันยิ่งยากลำบาก เพราะไม่ว่าจะไปทางไหนมีแต่ทางตัน ต่อให้ยุบสภาผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ให้ส.ว.มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายจตุพร กล่าวอีกว่า วันนี้ สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ตนมองว่าเป็นจุดที่ต้องวิเคราะห์และเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองอย่างชัดเจน โดยเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐจะเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง เพราะพรรคการเมืองอยู่ในสภาพอ่อนแอ พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นปัญหา พรรคภูมิใจไทยก็ดูเหมือนว่าจะแข็งแรงแต่มีปัญหากับพรรคร่วมพัวพันกันเต็มไปหมด ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเองก็อยู่ท่ามกลางความเหนื่อยยากทั้งในเรื่องกติกาที่กำหนดไว้ ดังนั้นหากปัญหาเศรษฐกิจปากท้องทวีความรุนแรงถึงขีดสุด
“สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงคือ แบบพฤษภาคมปี 2535 จะกลับมาอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ตนพยายามบอกคือ ในเดือนพฤษภาคม 2535 เศรษฐกิจดีแต่ในอนาคต เศรษฐกิจพัง แล้วจะกลายเป็นม็อบหิวโหย ซึ่งตู้ปันสุขก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า จิตใจคนได้ขาดหายไปค่อนข้างมากจากความหิวทำให้ไม่ได้ใช้สมองคิด แต่ใช้ท้องคิด เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนมีความกังวล”นายจตุพรกล่าว