posttoday

รัฐบาลสั่งเตรียมพร้อมระบบดิจิทัล รองรับข้าราชการทำงานที่บ้าน

12 มีนาคม 2563

"สมคิด" สั่งเตรียมพร้อมระบบรัฐบาลดิจิทัลรองรับการทำงานของราชการที่บ้าน หากสถานการณ์ระบาดโควิด-19ในไทยเข้าระยะที่ 3

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล( Digital Government Development Committee) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (12 มี.ค.63) ว่าจากสถานการณ์โควิด -19 ที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ทั้งเกาหลี อิตาลี อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในกรณีที่มีการระบาดอย่างกว้างขวางในประเทศโดยหน่วยงานราชการถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมีการเตรียมความพร้อม

นายสมคิดจึงได้สั่งการในที่ประชุมว่าให้หน่วยงานราชการมีการเตรียมความพร้อมในการทำงานที่บ้านผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งระบบการทำงานและระบบออนไลน์เพื่อให้การทำงานของหน่วยราชการนั้นๆและการให้บริการประชาชนไม่หยุดชะงัก

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลได้พัฒนาช่องทางต่างๆเพื่อสนับสนุนรัฐบาลดิจทัลที่ทำงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อมีเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้น จะมีการประสานกับกระทรวงดิจิทัลและเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำอุปกรณ์ ระบบ และขั้นตอนการทำงานต่างๆมาใช้ ซึ่งต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนที่ไทยจะเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3

รวมทั้งการผลักดันให้ประชาชนติดต่อกับราชการผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นและโทรศัพท์มือถือซึ่งลดการติดต่อกับราชการโดยตรงหากมีการยกระดับความรุนแรงของโรคในประเทศเพิ่มขึ้น

“ปัจจุบันเรายังอยู่ในระยะที่ 2 แต่ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานของรัฐบาลผ่านระบบดิจิทัล และออนไลน์เพื่อให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องในช่วงวิกฤติ”นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์คาดว่า การทำงานของหน่วยราชการผ่านระบบออนไลน์ อาจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดความรุนแรงของการระบาด

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กระทรวงดีอีได้ประชุมร่วมกับบริษัทภาคเอกชน ที่เป็นผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีดิจิตอล เพื่อขอให้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องนี้แล้ว

ด้าน นางชุติมา หาญเผชิญ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กล่าวว่า ก.พ.ได้สั่งการให้ข้าราชการปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและหากมีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงให้มีการกักตัวเองอยู่แต่ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วันโดยไม่ถือว่าเป็นวันลาซึ่งข้าราชการที่มีการลางานในลักษณะนี้ข้าราชการก็จะแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และมีการทำงานที่บ้านบางส่วนอยู่แล้ว

ซึ่งขณะนี้หน่วยงานราชการก็มีระบบการทำงานผ่านดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ได้แก่ เอกสารดิจิทัล (E-Doccument) การประชุมขนาดเล็กผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) และการประชุมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ระบบ E-conference ที่เป็นการประชุมขนาดใหญ่ก็มีระบบที่รองรับซึ่งมีความพร้อมในระดับหนึ่ง เหลือเพียงกฎระเบียบบางเรื่องที่ยังคงต้องมีการแก้ไขให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติงานจริง

สำหรับในกรณีที่ประเทศไทยเข้าสู่การระบาดระยะที่สาม แนวทางปฏิบัติในการทำงานคือข้าราชการจะต้องทำงานที่บ้านมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสายงานที่เป็นสายงานวิชาการสามารถทำงานที่บ้านผ่านระบบดิจิทัลได้อยู่แล้ว แต่ข้าราชการในส่วนปฏิบัติการที่ต้องให้บริการกับประชาชนก็จะมีการจัดเป็นผลัดเป็นเวรในการทำงานเพื่อลดจำนวนการทำงานที่สัมผัสกับประชาชนโดยตรงเพื่อลดความเสี่ยงลงซึ่งจะต้องมีการวางแนวทางที่ชัดเจนร่วมกับข้าราชการในหน่วยงานต่างๆเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกันต่อไป

นายสุพจน์ กล่าวด้วยว่าการเตรียมความพร้อมการทำงานของรัฐบาลและข้าราชการในช่วงที่มีวิกฤตเกิดขึ้นได้มีการเตรียมระบบต่างๆไว้รองรับเช่นการประชุม conference ปัจจุบันรัฐบาลสามารถจัดประชุมได้พร้อมกันสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม 200 คน และสามารถขอให้บมจ. กสท โทรคมนาคมขยายช่องทางเพื่อรองรับการประชุมของภาครัฐที่ใหญ่มากขึ้นได้ด้วย