"อนุทิน" โล่งหลังกระแส "บิ๊กตู่" ไม่แตะโควตารัฐมนตรีพรรคร่วม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มี ส.ส.มาร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทยจำนวนมากว่า ตอนนี้ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง พูดถึงแต่โควิด-19 ภัยแล้ง เพราะรัฐบาลต้องรีบทำงานเนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านสภาฯแล้วต้องทุ่มเทเรื่องการผลักดันเพื่อให้งานมีผลออกมาตามงบประมาณที่ได้รับ ท่ามกลางช่วงเวลาที่จำกัดเพียง7เดือน เราผลักดันการใช้จ่ายให้มากที่สุดเพราะเมื่อมีการหมุนเวียนของเงินจำนวนล้านล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มมากขึ้นและสถานการณ์จะดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าสบายใจขึ้นหรือไม่หลังมีกระแสข่าวนายกฯ จะไม่แตะ รมต.ของพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการปรับ ครม. นั้น นายอนุทินกล่าวว่าไม่เคยไม่สบายใจอยู่แล้ว และหากนายกฯ พูดอย่างนั้นก็สบายใจขึ้น

นายอนุทินกล่าวด้วยว่ายังไม่ได้คุยกับนายกฯ เรื่องปรับ ครม.เลย การปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ว่าพรรคไหนจะปรับ หรือพรรคไหนไม่ปรับและหากจะมีการปรับหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลก็ทำมาเมื่อมีสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ และเป็นสิ่งที่สมควรหากถึงเวลาอันควร

นายอนุทินกล่าวว่า หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไประยะหนึ่งแล้วก็คงมีการพิจารณาในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเดี๋ยวค่อยว่ากันการเมืองจะไปเจาะจง 100% ไม่ได้ต้องดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ที่สุดแก่บ้านเมือง ของตนนั้นง่ายอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองตัดสินใจเร็วอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าการที่มี ส.ส.มาร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น จะได้ที่นั่งรัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่าอย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลยเราเริ่มมาแบบนี้แล้วไม่เคยมีปัญหาอะไร เวลาที่เกิดมีขึ้นลมไม่สงบคนในเรือก็อย่าไปโยกตัวเองให้มากนักก็จะประคองเรือผ่านไปได้เดี๋ยวขึ้นลมก็จะสงบ เมื่อถึงเวลาทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง

เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาจะมีผลอย่างไรต่อรัฐบาลนั้น นายอนุทินกล่าวว่าเราต้องฟังทุกฝ่าย เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น ซึ่งรัฐบาลต้องรับฟังแต่ขอให้ออกมาแสดงความเห็นหรือรวมตัวกันเพื่อความก้าวหน้าของบ้านเมืองและประโยชน์ของประชาชน รัฐบาลรับฟังอยู่แล้ว คนที่ปราศรัยเก่ง พูดเก่ง มีไอเดียดี ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนเราต้องฟัง บางครั้งเราได้ความคิดที่ดีจากสิ่งเรานี้ แต่ช่วงนี้มีโรคติดต่ออยู่ก็ขอให้ระวังกัน

"ยืนยันว่าไม่เคยพูดว่าจะใช้ พรบ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพราะยังห่างไกลจากจุดนั้นมาก มีแต่พูดว่าเป็นห่วงขอให้ระวังรับผิดชอบซึ่งกันและกันเท่านั้น" รมว.สธ.กล่าว