posttoday

"นพ.ชลน่าน"แฉเงื่อนงำหลังนายกฯใช้อำนาจ ม.44 ปิดเหมืองทองอัครา

25 กุมภาพันธ์ 2563

ฝ่ายค้านแฉญาติ"นายพล ว."หวังยึด"เหมืองทองอัครา"มาเป็นของตัวเอง หลัง คสช.ใช้อำนาจ ม.44 สั่งระงับระงับสัมปทาน จ่อถูกฟ้องค่าเสียหายมากถึง 4 หมื่นล้าน ตกอยู่สภาพเดียวเวเนซูเอล่า

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งระงับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรีของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส ต้องระงับการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 60 จนนำมาสู่การฟ้องร้องรัฐบาลไทย โดย บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอัคราว่า มีการใช้อำนาจโดยขัดต่อหลักนิติธรรม ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงสามารถใช้กฏหมายปกติดำเนินการได้ จะไม่ต้องนำไปสู่การฟ้องร้องต่ออนุญาโตตุลาการ และประเทศไม่เสียหาย แต่กลับเลือกใช้ ม.44 ซึ่งเชื่อว่าเพราะอยากได้เหมืองนี้มาเป็นของตนเอง

ทั้งนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวมันฟ้องใช้กฏหมายปกติ ปิดเขา 2 ครั้งเขาก็ไม่ยอม ระหว่างปิด มีบุคคลนายหนึ่งอักษรย่อ ช. เป็นที่รู้จักดีในวงการเหมือง โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเลียม ไปเจรจาขอซื้อหุ้น หวังว่าซื้อแล้วจะสามารถมาเจรจากับผู้มีอำนาจในขณะนั้นให้ไปเปิดทำการได้ และคนนี้เป็นญาติสนิทสายเลือดเดียวกับ พลเอก ว. ซึ่งเป็นทหารใกล้ชิดกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความอยากได้ อยากเป็น ออกอำนาจไม่ชอบธรรม ไม่ชอบด้วยกฏหมายระหว่างประเทศ จนนำไปสู่การฟ้องร้อง

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทดังกล่าว ขั้นตอนอยู่ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการใน เดือน ก.พ.63 ที่ประเทศสิงคโปร์ และอีก 6-7 เดือนจะมีคำวินิจฉัยออกมา หากไทยถูกตัดสินให้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ อาจทำให้ไทยต้องชดเชยค่าเสียหายมากถึง 4 หมื่นล้าน ทำให้ประเทศไทยตกอยู่สภาพเดียวกับประเทศเวเนซูเอล่า ที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับบริษัทคู่สัญญาในเรื่องปิดเหมือง ส่งผลทำให้ประเทศเวเนซูเอล่าจากประเทศที่ร่ำรวยกลายเป็นประเทศที่มีปัญหา เงินกลายเป็นเศษกระดาษ

นพ.ชลน่าน เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรรับผิดชอบด้วยการลาออก ถึงจะมีโอกาสไปเจรจาสูญเสียน้อยที่สุด ถ้าหากถูกตัดสินว่าแพ้ และวิธีที่ดีที่สุดอยากให้ ส.ส. คิดถึงประเทศไทยลงคะแนนไม่ไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน เพราะเชื่อว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเป็นความหวังในการเจรจาต่อรอง ลดความสูญเสียให้กับประเทศได้ เพราะต่างชาติไม่เชื่อมั่นรัฐบาลชุดเดิมแล้ว

นพ.ชลน่าน ยังระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจขัดต่อหลักนิติธรรม เป็นผู้นำที่หลงตัวเอง มีบุคคลิกภาพที่แปรปรวน เป็นโรคหลงตัวเอง และคิดว่าไม่มีใครใหญ่กว่าตนเอง อีกทั้งมีการใช้อำนาจไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และนิสิตนักศึกษา โดยเห็นได้จากการออกมารวมตัวของนิสิตนักศึกษา ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ