posttoday

"สรัสนันท์" อัด"ประยุทธ์" บริหารประเทศเอื้อเจ้าสัว เอาทุนจีนฆ่าตลาดออนไลน์ - SME ไทย

25 กุมภาพันธ์ 2563

ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อัด รัฐบาลประยุทธ์ บริหารประเทศเอื้อเจ้าสัว ชักศึกเข้าบ้าน เอาทุนจีนฆ่าตลาดออนไลน์ - SME ไทย ไร้การต่อรองผลประโยชน์ทางการค้า ทำเศรษฐกิจพังล้มเหลว

วันที่ 25 ก.พ.63 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.จังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายว่า รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไร้น้ำยา ไร้ประสิทธิภาพ และไร้วิสัยทัศน์ คนตกงานกว่า 4 แสนคน หนี้ครัวเรือนและความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น คนจนเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน นี่คือความล้มเหลวของรัฐบาล

รัฐบาลยังเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนบางกลุ่มและบางตระกูล ทำให้ร่ำรวยขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะคนที่บริจาคโต๊ะจีนในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ธุรกิจเติบโตก้าวหน้ามากถึง 25 %ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เช่น ธุรกิจดิวตี้ฟรี โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 สนามบิน การขึ้นภาษีเหล้าเพื่อกีดกันการแข่งขันจากต่างชาติ โดยเอื้อเจ้าตลาดในประเทศ

ทั้งนี้นายกฯ ไม่เคยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาหรือสนับสนุนคนรากหญ้า โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ใช้แรงงาน หาเช้ากินค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกมองแต่ตัวเลขจีดีพี โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าการเติบโตของตัวเลขนั้นไม่ได้กระจายไปอย่างทั่วถึงประชาชนทั่วประเทศ

“นายพลเกษียณแล้วแถมไม่มีความชำนาญในด้านเศรษฐกิจ แถมเพิ่งเริ่มใช้กูเกิลจะมาบริหารเศรษฐกิจดิจิทัล หรือบริหารเศรษฐกิจ ยิ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ” น.ส.สรัสนันท์ กล่าว

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า ผู้นำประเทศไม่มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจ ไม่มีศักยภาพทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การกระทำและคำพูดของนายกรัฐมนตรีย้อนแย้งตลอดเวลา ไม่ได้สนับสนุนหรือส่งเสริมคนตัวเล็ก ผู้ประกอบการรายย่อยทำธุรกิจ แหล่งทุนหรือธนาคารพาณิชย์ต้องการปล่อยเงินกู้ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ และคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ ขณะที่กฎหมายภาษี E-Payment มีเพื่อใช้กำกับคนตัวเล็กตัวน้อยที่กำลังตั้งตัว ซึ่งเท่ากับเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ และไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

ส.ส.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังมีปัญหา รัฐกลับผลักภาระหรือรีดเลือดจากคนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีอำนาจต่อรอง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทยกำลังประสบปัญหา รัฐไทยก็อ้าแขนรับทุนใหญ่ อย่างอาลีบาบา ผู้ประกอบการค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีน บริษัทเหล่านี้จะเข้ามาหากำไรในไทย ไม่ใช่ว่าจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจในไทย รัฐบาลกำลังชักศึกเข้าบ้าน และเท่ากับว่าตลาด E-Commerce ในไทยต้องไปสู่กับกลุ่มทุนรายใหญ่

“การเข้ามาของคนตัวใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ เข้ามาเขาเป็นบริษัทมหาชน สิ่งที่เขาต้องการอันดับแรกคือกำไร ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะที่เขาจะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย”

“ที่น่าตลกคือนายกฯ บอกว่าเขาจะเข้ามาช่วยเราพัฒนาประเทศ เขามีพ่อมีแม่เป็นคนไทยหรอคะ ทำไมเขาต้องมาหวังดีกับเรา นี่ดิฉันกำลังจะชี้ให้เห็นว่าท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรีกำลังจะชักศึกเข้าบ้าน” น.ส.สรัสนันท์ กล่าวและว่า ความหวังดีที่บริษัทจากจีนแสดงออกและการนำเสนอการตั้งแพลทฟอร์ม ในไทย นั่นเพราะเขาต้องการข้อมูลผู้บริโภคและการท่องเที่ยวต่างๆ ในไทย เพื่อผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเอาผลประโยชน์ของชาติและคนตัวเล็กตัวน้อยไปแลกเปลี่ยนกับทุนใหญ่จากต่างชาติ ที่พร้อมเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ในไทย ซึ่งต้นทุนของต่างชาตินั้นน้อยกว่าไทยด้วยการอำนวยความสะดวกด้านข้อกฎหมาย

“รัฐบาลสามารถเอาเงินที่ใช้ซื้อยุทโธปกรณ์ ไปสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยไทย ผู้ประกอบการไทยที่มีแต่คนเก่ง แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ตลาดออนไลน์ไทยเคยมีศักยภาพ SME ที่พยายามปรับตัวมาเป็นออนไลน์ ทั้งหมดนี้เมื่อเจอทุนใหญ่จากจีนก็สู้ไม่ได้ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความไม่รู้ ความมักง่ายของพล.อ.ประยุทธ์ และคณะเศรษฐกิจ” น.ส.สรัสนันท์ กล่าวและว่า สาเหตุที่รัฐบาลไม่ได้สนใจคนไทย อุ้มแต่เจ้าสัว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากการยึดอำนาจ ทำให้ต้องมีการต่อรองและเอาใจกับกลุ่มทุนใหญ่