posttoday

นายกฯสั่งตั้งวอร์รูม รับมือสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ลั่นไม่ปิดประเทศ

28 มกราคม 2563

นายกรัฐมนตรี สั่ง ตั้งวอร์รูม รับมือสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ลั่นไม่ปิดประเทศ พร้อมรับนศ.ไทยกลับบ้านรอจีนไฟเขียว

นายกรัฐมนตรี สั่ง ตั้งวอร์รูม รับมือสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ลั่นไม่ปิดประเทศ พร้อมรับนศ.ไทยกลับบ้านรอจีนไฟเขียว

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำปลัดกระทรวง และคณะทำงาน ขึ้นไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรายงานสถานการณ์การควบคุมไวรัสโคโรนา และฝุ่นละออง pm 2.5   นานกว่า 30 นาที

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ ที่มาจัดแสดง อาทิ รวมพลังสู้ “ฝุ่น PM 2.5” ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มารณรงค์พร้อมเชิญชวนสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ทดสอบแอปพลิเคชั่นวัดค่ามาตรฐานฝุ่นละออง รวมถึงแนะนำการลดสาเหตุ ของการเกิดฝุ่นละอองและย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก พร้อมสาธิตการสวมหน้ากากทั้งแบบธรรมดา และ N95 ที่ถูกวิธี พร้อมสั่งการให้ควบคุมราคาหน้ากากอนามัยให้ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ นายกฯได้โชว์การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และหน้ากากอนามัยป้องกันไข้หวัดต่อสื่อมวลชน พร้อมกับยิ้มและกล่าวว่า นายกฯจะยิ้มไปทำไม ใส่หน้ากากแล้วจะไม่เห็นรอยยิ้ม แต่ให้ดูที่ตา เวลาดูนายกฯโมโหหรือไม่โมโหให้ดูที่ตา อย่าดูปากว่ายิ้มหรือไม่ยิ้ม เพราะฉันจะยิ้มด้วยตา

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการและเพิ่มเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ในการเคลื่อนย้ายคน อีกทั้งขณะนี้ได้ให้ทางตรวจคนเข้าเมืองประสานกับกระทรวงสาธารณสุขตั้งวอร์รูมชั่วคราว โดยให้ทุกหน่วยงานทำงานประสานกันอย่างบูรณาการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้เราต้องให้ความเชื่อมั่นกับทางการจีนด้วย ที่กำลังสั่งห้ามคนออกนอกประเทศ แต่ประเทศไทยก็ต้องเตรียมพร้อม ส่วนจะปิดประเทศหรือไม่นั้น ถามว่าสมควรหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ใช่ก็ต้องให้ความเชื่อมั่นกับทางการจีนด้วย ที่มีการควบคุมเต็มที่อยู่แล้วในการที่จะดูแลหากมีคนจีนเข้ามาเราก็ต้องดู หากช่วงแรกอาการไม่ปรากฏแต่อยู่ไปแล้วมีอาการก็ต้องไปหาหมอ ไม่เช่นนั้นจะไปติดคนอื่น โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆตนได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมโดยชุดหมอมาช่วย จะเอาแค่ทหารมาช่วยอย่างน้อยให้ไปอยู่ในจุดคัดกรองต่างๆ

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขที่ทำงานหนักในตอนนี้ เราต้องทำทุกมิติ หากทำมิติใดมิติหนึ่งมันแก้ไม่ได้หรอก จะต้องทำร่วมกัน ข้อสำคัญคือเราต้องให้ความเชื่อมั่นต้นทางแหล่งกำเนิด เราต้องแก้เรื่องการแพร่กระจาย ซึ่งตอนนี้เราคอนโทรลได้ ในขณะนี้นายกฯพูดร้อยเปอร์เซ็นต์ในขณะนั้น ต่อมาถ้าเพิ่มก็ต้องทำต่อ อะไรที่แก้ไขได้ก็ต้องแก้ไขเป็นมาตรการประกอบกันที่จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัย สุขภาพสำคัญที่สุด แต่อย่างอื่นเป็นส่วนประกอบเราต้องยอมรับกันว่าอะไรได้อะไรเสีย ถ้าเราควบคุมได้ก็ไม่มีปัญหา

“อย่าเอาไปเป็นปัญหาทางการเมืองเลยมันอันตราย รัฐบาลทำเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่นักศึกษาไทยอยากเดินทางกลับประเทศไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงแล้ว ทราบว่ามีการรวบรวมชื่อที่อยู่ไว้แล้ว 60 กว่าคน เราก็เตรียมความพร้อมในการรับกลับอยู่แล้ว แต่เขายังไม่ได้บินเข้าก็ต้องเห็นใจเขา ทางจีนเขาต้องคอนโทรลคนที่อยู่ในพื้นที่ไม่ให้มาแพร่ในที่อื่น ขณะเดียวกันเราต้องดูต้นทางของเราทำอย่างไรจะไม่ให้แพร่ ซึ่งต้องประสานกัน ถ้าเขาอยากกลับก็ขึ้นบัญชีให้อยู่แล้ว ถ้ากลับได้เมื่อไหร่ก็รับกลับ”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนกรณีทหารเรือที่เดินทางไปฝึกในประเทศจีนและเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ทั้งหมดเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยแพทย์ทหาร ส่วนที่วิจารณ์ว่าทำไมทหารเดินทางกลับได้แต่นักศึกษากลับไม่ได้ นายกรัฐมนตรี อธิบายว่า ทหารเรือกลุ่มนี้ไม่ได้เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น และเดินทางกลับมาโดยเครื่องบินพาณิชย์ไม่ใช่เครื่องบินทหาร ทั้งผ่านการคัดกรองสุขภาพแล้วไม่พบเชื้อจึงได้อนุญาตให้เดินทางกลับ