posttoday

ฝ่ายค้านลงสัตยาบันยกร่างรธน.ฉบับใหม่ "ธนาธร"ขอ “บิ๊กตู่” ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่

14 ธันวาคม 2562

7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” พร้อมลงสัตยาบัน ยกร่างรธน.ฉบับใหม่ ด้าน “ธนาธร” ขอ “บิ๊กตู่” ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่ ขณะที่ “เสรีพิศุทธ์” ลั่นถ้ามีอำนาจจะฉีกรธน.ทิ้งเอาฉบับปี40 มาใช้

7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” พร้อมลงสัตยาบัน ยกร่างรธน.ฉบับใหม่ ด้าน “ธนาธร” ขอ “บิ๊กตู่” ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่ ขณะที่ “เสรีพิศุทธ์” ลั่นถ้ามีอำนาจจะฉีกรธน.ทิ้งเอาฉบับปี40 มาใช้

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ 7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นายวันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ , นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมเสวนา

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ และเป็นความต้องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นจึงมีการวางแผน จัดตั้งบุคลากรต่าง ๆ จนนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อให้รัฐธรรมนูญเกิดปัญหา เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะฝ่ายที่เห็นตรงข้าม จึงเกิดปัญหาที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ ตลอดจน การพิจารณาบังคับใช้กฎหมายยังมีข้อกังขามากมาย ทั้งตัวบทกฎหมายไม่ตรงกับการปฏิบัติ จึงเกิดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ เจตจำนงของรัฐธรรมนูญที่ดีโดยทั่วไปต้องเขียน หรือสร้างขึ้นมาให้เหมาะสมกับประชาชน เป็นธรรม ยุติธรรม สร้างดุลยภาพของทุกภาคส่วนให้สมดุล แต่รัฐธรรมนูญนี้สร้างองค์กรหนึ่ง คือ ส.ว.ที่เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการสืบทอดอำนาจให้เป็นไปโดยสะดวก และ ส.ว.ยังมีอำนาจมากกว่าประชาชน จึงมองว่าการเดินหน้าประเทศ ต้องเกิดจากรัฐธรรมนูญที่มีความสมดุล ไม่ใช่เกิดจากปืน หรือ รถถัง พร้อมวิงวอนทุกภาคส่วน ร่วมมือที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนส่วนอื่น ๆ เข้าใจและหาทางแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะเสียสละเงินเพื่อให้ทำประชามติ

ด้านนายธนาธร กล่าวถึงเหตุผลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เพื่อต้องการหยุดยั้งความขัดแย้ง เพื่อจัดสรรอำนาจใหม่ว่าฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และประชาชน ควรจะมีอำนาจฝ่ายละเท่าไร เพราะที่ผ่านมาการรัฐประหาร มีการจัดสรรอำนาจใหม่ให้กับตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ โดยให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันกำหนดกฎกติกาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมีแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ การแก้ไขด้วยเลือด หรือการแก้ไขด้วยความยินยอมพร้อมใจด้วยกัน ดังนั้นเวลานี้ จึงเป็นเวลาที่จะต้องแสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อหาทางรอดให้กับสังคมไทย เพราะมองว่าของขวัญปีใหม่ที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขมากที่สุด คือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง

ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ทำได้โดยเร็ว คือ ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันทิ้ง เพื่อไม่ให้ทุกฝ่ายต้องปวดหัว และนำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 กลับมาใช้ จากนั้นใช้เวลา 3 เดือนเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามที่ตนระบุว่าฉีกรัฐธรมนูญทิ้งนั้นไม่กลัวจะโดนคดี และที่ผ่านมาไม่เคยถูกเชิญไปปรับทัศนคติ เพราะหากมาเมื่อใด ตนยิงทิ้งเมื่อนั้น

ฝ่ายค้านลงสัตยาบันยกร่างรธน.ฉบับใหม่ "ธนาธร"ขอ “บิ๊กตู่” ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่

ด้านนายวันมูหะมัด นอร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับรัฐบาล หากยังปล่อยให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้เกิดปัญหา ทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งนายธนาธร ถือว่าเป็นหนึ่งในเหยื่อ ของระบบเผด็จการ ที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้า และในอดีต มีการต่อสู้ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ในช่วงปี 2475 เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยมา อย่างลุ่มๆดอนๆ แต่วงจรอุบาทว์ ของเผด็จการ ก็พยายามยึดอำนาจ จึงขอย้ำว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่เราไม่ต้องการ ให้ระบอบเผด็จการทำรัฐประหารต่อไป ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมา เป็นเพราะประชาชนยินยอมให้เกิดการรัฐประหาร หลงผิดคิดว่าเขาเป็นเจ้าของอำนาจ ทั้งที่แผ่นดินนั้นเป็นของเรา เป็นของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งต่างจากในประเทศอังกฤษ ที่ไม่สามารถทำรัฐประหารได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม พร้อมฝากถึงศาลและผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ว่าการตัดสินต้องยึดตามหลักศีลธรรมในการพิจารณาคดี

นายวันมูหะมัด นอร์ กล่าวต่อว่า การต่อสู้ของนายธนาธร ครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ไม่มีวันที่เผด็จการจะชนะใจประชาชนได้เลย ดังนั้นวันนี้เวลาถึงเวลาของประชาชนแล้ว ไม่ใช่เวลาของนายธนาธร พร้อมทั้ง ชี้ให้เห็นถึงระบบการเลือกตั้งของรัฐบาล ที่มีเสียงปริมน้ำจึงมีการจึงมีการซื้อเสียงด้วยการแจกกล้วย และขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย และยังทิ้งท้ายด้วยว่า รัฐธรรมนูญจะต้องมาจากประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน

ขณะที่ นายมนูญ เผยว่า ตนพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนเท่านั้น

ด้านนายสงคราม กล่าวว่า เราเป็นผู้รักชาติ จึงขออย่าเก็บความรักชาติไว้คนเดียว แต่ต้องมาร่วมมือกัน ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญมาไม่ดี ก็จะทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อีกทั้งประเทศไทยกำลังจะล่มจม แต่รัฐบาลก็ยังโกหกประชาชนว่าเศรษฐกิจดี พร้อมกันนี้สร้างความขัดแย้ง สร้างความกลัว รังแกและยัดข้อหา ให้ฝ่ายตรงข้ามด้วย ทั้งนี้ย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขึ้นมาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ก็จะไม่เกิดผลสำเร็จ หากไม่แก้รัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นทาสจะเป็นทาสยันชั่วลูกชั่วหลาน

ส่วนนายนิคม ได้ตั้งฉายาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปล้นประชาชน ปล้นความสุขไปจากประชาชน ปล้นเศรษฐกิจไปจากประชาชน ปล้นความหวังไปจากประชาชน และปล้นอนาคตใหม่ ไปจากประชาชน ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญ ที่แก้ไขได้ยาก และเขียนเพื่อฉีดและยึดอำนาจเอง

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มเสวนา นายสมพงษ์ ได้อ่านสัตยาบันร่วมกันของฝ่ายค้าน ผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ ข้อความว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงนามให้สัตยาบันร่วมกันว่าเราจะร่วมมือร่วมแรงร่วมใจร่วมกันแก้ไข และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน โดยยึดมั่นในหลักการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกันนี้ก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคมอาทิ ภาควิชาการ นักเรียน นิสิตนัก ศึกษาและประชาชน ตลอดจนกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในการดำเนินการดังกล่าวตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่ให้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเจตนารมณ์และตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง จึงลงนามเป็นหลักฐานไว้เป็นสัตยาบรรณร่วมกัน

ฝ่ายค้านลงสัตยาบันยกร่างรธน.ฉบับใหม่ "ธนาธร"ขอ “บิ๊กตู่” ลาออกเป็นของขวัญปีใหม่