posttoday

"สุวัจน์" ห่วงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแพ้โหวตบ่อยอันตรายต่อเสถียรภาพ

10 ธันวาคม 2562

"สุวัจน์"ห่วงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ชี้แพ้โหวตบ่อยครั้งอันตรายต่อเสถียรภาพ ชี้ถ้าปรับ ครม.สามารถดึงเสียงสนับสนุนเพิ่มได้จะแก้ปัญหาทุกเรื่อง

"สุวัจน์"ห่วงรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ชี้แพ้โหวตบ่อยครั้งอันตรายต่อเสถียรภาพ ชี้ถ้าปรับ ครม.สามารถดึงเสียงสนับสนุนเพิ่มได้จะแก้ปัญหาทุกเรื่อง

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 62 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แกนนำพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า เรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลมีความสำคัญ เพราะถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพก็ก่อให้เกิดความเชื่อมั่น นักลงทุนก็อยากมาลงทุน ฉะนั้นถ้าสามารถสร้างเสถียรภาพของรัฐบาลและในสภาฯ ให้เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วงไปได้

ส่วนกระแสปรับ ครม. ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะมีการปรับหรือไม่ปรับ แต่ถ้าเกิดว่าอะไรก็แล้วแต่ที่สามารถทำให้มีเสียงในสภาฯ เพิ่มขึ้น ตอนนี้สมมติเสียงอย่างเป็นทางการของรัฐบาลประมาณ 253 เสียงตั้งแต่ตอนจัดรัฐบาล 253-254 เสียง ถือว่ามาร์จิ้นค่อนข้างต่ำก็เลยมักจะพูดกันว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ฉะนั้นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเวลานักลงทุนฟังก็กังวลในความต่อเนื่องของรัฐบาล ฉะนั้นถ้าเกิดมีอะไรที่ทำให้รัฐบาลมีเสียงมากขึ้นมันจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ฉะนั้นอะไรที่ทำให้รัฐบาลมีเสียงในสภาฯ เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้มีเสถียรภาพของรัฐบาลมากขึ้นที่จะเป็นผลดีของประเทศ

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ถ้าเกิดแพ้โหวตบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลขาดความมั่นใจ เหมือนกับเสียงปริ่มน้ำด้วย ถ้าเกิดรักษาเสียงปริ่มน้ำไว้ อย่างเรามี 245 เสียง โหวตทีไรเราก็อยู่ที่ 254 เสียงได้อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าแพ้เสียงในสภาฯ บ่อยครั้งจะทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพ เมื่อขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพ ก็จะกระทบเรื่องเศรษฐกิจด้วย

ฉะนั้นรัฐบาลโดยพรรคร่วมรัฐบาลต้องพยายามที่จะมีความใกล้ชิดกันในการที่จะรักษาเสียงให้ครบถ้วนอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องจำเป็น ส่วนเรื่องที่รัฐบาลจะดึงเอางูเห่าฝ่ายค้านเข้ามาเติมเสียงให้รัฐบาลนั้น ตนคิดว่าตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เนื่องจากตอนจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นเหมือนกับการเมืองเราแบ่งเป็น 2 ค่าย 2 ขั้วอย่างชัดเจน ฉะนั้นมันก็เป็นความยากลำบากตั้งแต่ตอนจัดรัฐบาลกันแล้ว ซึ่งจะเห็นกันว่าช่วงนั้นก็ใช้เวลานานและเสถียรภาพก็ไม่พอ