posttoday

"เสี่ยหนู"ดักคอ"เศรษฐกิจใหม่ร่วมรัฐบาลต้องไม่กระทบภท.

06 ธันวาคม 2562

"อนุทิน" ชี้ ฝ่ายค้านร่วมประชุม คว่ำญัตติ กมธ.ม.44 เพราะเป็นศักดิ์ศรี ส.ส. รับเงินเดือนประชาชน แจง พรรคร่วมรัฐบาลต้องปกป้องพวกเดียวกัน ดักคอ หากเศรษฐกิจใหม่มา ต้องไม่กระทบ ภูมิใจไทย

"อนุทิน" ชี้ ฝ่ายค้านร่วมประชุม คว่ำญัตติ กมธ.ม.44 เพราะเป็นศักดิ์ศรี ส.ส. รับเงินเดือนประชาชน  แจง พรรคร่วมรัฐบาลต้องปกป้องพวกเดียวกัน ดักคอ หากเศรษฐกิจใหม่มา ต้องไม่กระทบ ภูมิใจไทย

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปอย่างราบรื่นใช่หรือไม่ ว่า ไม่หรอก แต่ละคนต้องรู้มารยาทและหน้าที่ตัวเอง เราเป็นรัฐบาล ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ยกเว้นเรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย เรื่องผิดกฎหมาย เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ตรงนั้นไม่มีใครยอม ส่วนที่มีฝ่ายค้านบางส่วนมาแสดงตน จนทำให้องค์ประชุมครบนั้น ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. คนเป็นผู้แทนราษฎรบางทีไม่อยากให้ภาพสภาฯล่มเกิดขึ้น เป็นศักดิ์ศรีของ ส.ส.ทุกคน เรารับเงินเดือนประชาชน อุตส่าห์เลือกให้เข้ามาทำงาน จึงต้องทำงาน

ต่อข้อถามว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ต่อการพิจารณาญัตติและกฎหมายของรัฐบาลต่อจากนี้หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองถือเป็นนิมิตหมายที่ดี คนที่เป็น ส.ส. วุฒิภาวะต้องสูงมาก แต่ละคนต้องคิดว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต้องสนับสนุน ในรัฐบาลก็เช่นเดียวกัน หากคนไหนเสนออะไรแย่ๆ กับบ้านเมือง พรรคร่วมก็ไม่สนับสนุน แต่กรณีมาตรา 44 เป็นเรื่องที่เราต้องดูแล คอยปกป้อง สนับสนุนเพื่อนร่วมงานในรัฐบาลด้วยกัน

เมื่อถามว่า ในอนาคตต้องใช้เสียง ส.ส.ของฝ่ายค้านมาร่วมในญัตติสำคัญๆ ของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มั้ง พอดีช่วงนี้หลายคนไปต่างประเทศ และบางคนป่วย  เมื่อถามว่าห่วงเรื่องเสียงในการลงมติร่าง พรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ด้วยหรือไม่นั้น  นายอนุทิน กล่าวว่า ผ่านวาระแรกมาแล้ว และการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พรบ.งบประมาณฯ ก็อยู่บนพื้นฐานกรอบใหญ่

ต่อข้อถามว่าหากในอนาคตมีปัญหาอีก นายกรัฐมนตรีควรพิจารณาในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่นั้น  นายอนุทินกล่าวว่าไม่มีหรอก นายกฯ พยายามแก้ไข และมอบหมายให้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มาคอยดูแล ซึ่งถือว่าดี เพราะมาจากพรรคแกนนำ จะได้ลดภาระนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าในส่วนรัฐมนตรีของพรรค ภท.จะมีการประเมินเรื่องการทำงานและพิจารณาตัวเองหรือไม่ เพื่อปรับ ครม.นั้น   นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอะไร มีสิทธิปรับที่ไหน การปรับ ครม.มีปัจจัยและเงื่อนไขหลายอย่าง คนที่ตัดสินใจได้มีคนเดียว ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลหากจะมีการปรับ ครม.จริง คงมีการส่งข่าวกันมา แล้วสอบถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะปรับหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกทีตอนนั้น ตอนนี้ทุกคนทำงานหัวฟัดหัวเหวี่ยง จะปรับ ครม. หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ทุกอย่างผ่านหมด เงื่อนไขที่คิดว่าจะชะงักติดขัดก็ผ่านมาด้วยดี

เมื่อถามว่ารัฐมนตรีทุกคนในพรรค ภท.ยังทำงานได้ดีหรือไม่นั้น  นายอนุทิน ชี้ไปที่ตา พร้อมกับกล่าวว่า “ดูตาสิ ตาเขียวเป็นหมีแพนด้ากันแล้ว”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจใหม่ มาร่วมรัฐบาลจะต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ไม่ใช่คนไปทาบทาม เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม. จะกระทบพรรค ภท.หรือไม่นั้น  นายอนุทินกล่าวว่าก็ไม่ควรจะมีนะ  เราก็ทำหน้าที่ของเราครบถ้วนกระบวนความ ทุกอย่างต้องคุยกัน อะไรที่เป็นเพื่อบ้านเมือง คุยได้ก็คุย อย่าไปหักหาญกัน ใครเข้ามาช่วยทำงานก็ดี บ้านเมืองต้องการคนช่วยทำงาน รัฐบาลต้องการความเข้มแข็งที่สุด จะได้บริหารด้วยความราบรื่น

เมื่อถามว่าอากาศหนาวแต่รัฐบาลไม่ได้หนาวสั่นใช่หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า ก็สบายสิ จะไปหนาวทำไม

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุจะมีการแถลงผลงานรอบ 6 เดือน ว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ทั้งข้อมูล การนำเสนอ แผนงาน และคำว่าผลงานรัฐบาลนั้น ความสำเร็จบางอย่างไม่ได้มีแบบปึงปัง จะต้องเป็นข่าวสะใจมิตรรักแฟนเพลง แต่การทำให้กระทรวงเดินหน้าไปได้ถือว่าเป็นผลงาน อย่าไปกดดันอะไรกันนักเลย การที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเช่นนี้ตนเชื่อว่าทำงานได้ ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน มองเป้าหมายของประเทศ