posttoday

เพื่อไทย ซัดรัฐบาล เสนอกล้วยฝ่ายค้าน ฉุดการเมืองถอยหลังเหมือนปี 2518 ลั่นฟันงูเห่าแน่

05 ธันวาคม 2562

อนุดิษฐ์ ซัด การเมืองไทยถึงจุดเสื่อม ผู้มีอำนาจใช้วิธีข่มขู่พรรคตัวเอง - พรรคร่วม เสนอกล้วยจูงใจฝ่ายค้าน สะท้อนไม่ปฏิรูปการเมือง ทำถอยหลังเหมือนปี 2518 เตรียมดำเนินการกับ 3 ส.ส.เพื่อไทยที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค

อนุดิษฐ์ ซัด การเมืองไทยถึงจุดเสื่อม ผู้มีอำนาจใช้วิธีข่มขู่พรรคตัวเอง - พรรคร่วม เสนอกล้วยจูงใจฝ่ายค้าน สะท้อนไม่ปฏิรูปการเมือง ทำถอยหลังเหมือนปี 2518 เตรียมดำเนินการกับ 3 ส.ส.เพื่อไทยที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีส.ส.ฝ่ายค้านร่วมเป็นองค์ประชุม ให้เดินหน้าลงมติญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากประกาศ คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ตามมาตรา 44 ว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวการเตรียมการของฝ่ายรัฐบาลก่อนการพิจารณาญัตติตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบมาตรา 44 ทราบว่า รัฐบาลพยายามระดม ส.ส.ทั้งหมดเพื่อเปิดประชุม โดยเงื่อนไขต้องมีองค์ประชุมให้ครบ 249 เสียงเพื่อเปิดประชุมโหวตล้มมติตั้งกรรมาธิการ ม.44 ที่แพ้ไปก่อนหน้านี้ให้ได้ และต้องหาหนทางพลิกเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ 6 เสียงที่โหวตสวนทางของรัฐบาล ซึ่งตนได้รับรายงานจาก ส.ส.หลายคนของพรรคที่ถูกทาบทามจากบุคคลสำคัญของรัฐบาลที่เสนอผลประโยชน์บางอย่าง เพื่อให้สนับสนุนรัฐบาลแก้ไขข้อขัดข้องที่รัฐบาลมีอยู่ และได้ยินข่าวปล่อยว่า หากสภาฯล่มอีก อาจมีการยุบสภา

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อผลออกมาตามที่เห็นกัน ก็ไม่คิดว่า การเมืองไทยจะเดินมาถึงจุดที่มีความเสื่อมได้รวดเร็วขนาดนี้ ตนไม่เคยเชื่อว่า การเมืองวันนี้ผู้มีอำนาจเลือกใช้วิธีข่มขู่พรรคตัวหรือพรรคร่วม เพื่อควบคุมลูกน้องหรือทีมงานให้เกิดความเกรงกลัว จนต้องทำตามผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เพราะหากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ก็เท่ากับสะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองในตอนนี้ไม่ได้ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างที่พยายามกล่าวอ้างมาโดยตลอด เพราะเห็นภาพการต่อรอง กดดัน ข่มขู่ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะการเสนอกล้วย เพื่อจูงใจให้กับส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ย่อมไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นแต่เป็นการนำการเมืองไทยถอยหลังไปเหมือนปี 2518

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทย 3 เสียงที่แสดงตนเป็นองค์ประชุม น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พรรคจะปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกไม่ได้ ส่วนตัวเห็นว่าพรรคต้องกำหนดมาตรการในการดำเนินการกับบุคคลที่สวนมติพรรค พรรคเพื่อไทยมีระเบียบข้อบังคับและวิธีการในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคคลดังกล่าวได้ชี้แจงกับพรรคเสียก่อน ส่วนจะมีมาตรการอย่างไรเมื่อได้ข้อยุติจะรายงานผ่านสื่อให้ประชาชนทราบเพราะคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ต่างรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของสมาชิกที่สวนมติพรรคในครั้งนี้เป็นอย่างมาก