posttoday

ศาลนัดฟังคำสั่ง"ช่อ พรรณิการ์" ฟ้องหมิ่นประมาท "ส.ส.ปารีณา" 12 ธ.ค.นี้

02 ธันวาคม 2562

"ช่อ พรรณิการ์" ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้อง "ปารีณา ไกรคุปต์ " โพสต์ภาพเฟซบุ๊กหมิ่นประมาทให้คนสงสัย"ธนาธร"มีเอี่ยวคนร้ายวางระเบิดกรุง ย้ำดำเนินการทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

"ช่อ พรรณิการ์" ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้อง "ปารีณา ไกรคุปต์ " โพสต์ภาพเฟซบุ๊กหมิ่นประมาทให้คนสงสัย"ธนาธร"มีเอี่ยวคนร้ายวางระเบิดกรุง ย้ำดำเนินการทางกฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ห้องพิจารณา 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.2043/2562 ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328

โดยคดียื่นฟ้องเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.62 น.ส.ปารีณา จำเลยได้เผยแพร่ข้อความ พร้อมภาพประกอบลงในเฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ด้วยข้อความลักษณะกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ การโพสต์ข้อความดังกล่าว จำเลยได้ใส่ภาพประกอบ 3 ภาพ ภาพแรกเป็นภาพโจทก์กับนายธนาธร และบุคคลที่สาม จำเลยได้วงกลมไว้บริเวณหน้าบุคคลที่สาม เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาอ่านโพสต์ของจำเลยเข้าใจว่า เป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์วางระเบิด โดยโจทก์กับนายธนาธรเป็นผู้มีส่วนจากที่จำเลยเผยแพร่ข้อความว่า “ฟ้องด้วยภาพ! มือวางระเบิดใครเป็นเจ้าภาพ!”

ภาพที่ 2 เป็นภาพถ่ายโจทก์ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเลยได้ใส่ข้อความว่า “อีช่อลงไป” ซึ่งประชาชนทั่วไปทราบกันดีว่าเป็นชื่อเล่นของโจทก์ ประกอบกับภาพข่าวผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์วางระเบิดพร้อมข้อความว่า “พวกนี้ขึ้นมา” เพื่อให้เห็นว่าโจทก์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย

สำหรับ ภาพที่ 3 เป็นภาพจากโพสต์ของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “จำไว้เลย” มีข้อความว่ามือบึ้มที่แท้จริงเป็นนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ... ประกอบภาพผู้ต้องสงสัยกับภาพบุคคลอื่น ซึ่งเพจดังกล่าวเผยแพร่ข่าวที่มีเนื้อความอันเป็นเท็จ จำเลยได้นำภาพโพสต์ดังกล่าวมาประกอบเพื่อเชื่อมโยงว่าโจทก์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นการจงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เข้าใจผิดว่าโจทก์มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเหตุการณ์การวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 2-3 ส.ค.62 และเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม น.ส.พรรณิการ์มาศาลพร้อมทนายโจทก์ ฝั่ง น.ส.ปารีณา ได้แต่งตั้งทนายความ มาร่วมกระบวนการซักค้านพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งภายหลังศาลไต่สวนพยานโจทก์เสร็จสิ้น น.ส.พรรณิการ์โจทก์ เปิดเผยว่า ศาลได้นัดฟังคำสั่งวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ว่าจะรับคดีนี้ไว้พิจารณาหรือไม่ โดยคดีนี้ น.ส.ปารีณา โพสต์ข้อความไว้อยู่หลายวัน ก่อนเปลี่ยนภาพและข้อความในภายหลัง ขณะที่ปัจจุบันเฟซบุ๊กนี้ก็ปิดไปแล้ว แต่การดำเนินคดีอยู่ต่อไปแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ทนายความ น.ส.ปารีณาพยายามต่อสู้ว่า เป็นเฟซบุ๊กปลอม ซึ่งตนก็ยืนยันว่า เป็นเฟซบุ๊กจริงเนื่องจากเคยใช้ไลฟ์สดหลายครั้ง รวมถึงไลฟ์ที่ด่าตน ไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เป็นประจักษ์พยานชัดเจน นอกจากนี้ ทนายความ น.ส.ปารีณา พยายามสู้คดีว่า ตนมีความโกรธเคืองส่วนตัวเลยมาฟ้องดิสเครดิต ถ้าเป็นการฟ้องดิสเครดิต สามารถฟ้องต่อกรรมาธิการสภาก็ได้ แต่ตนยืนยันดำเนินการทางกฎหมาย เพราะมีการทำผิดอาญา ไม่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่าง น.ส.ปารีณาเป็น ส.ส. เป็นบุคคลสาธารณะ ถ้า ส.ส.ละเมิดกฎหมายเสียเอง ก็ไม่สามารถธำรงหลักนิติรัฐนิติธรรมไว้ได้