posttoday

นายกฯปลุก"ก๊อตทาเล้น"เด็กไทยวางฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์

29 พฤศจิกายน 2562

“บิ๊กตู่” สั่งทุกโรงเรียนค้นหา “ก๊อตทาเล้น” เด็กไทยเพื่อปั้น “ดิน” ให้เป็น “ดาว” วางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หวังสร้างรายได้เข้าประเทศ วางเป้า ศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรีไทยต้องโด่งดังระดับโลก แนะจัดเทศกาลดนตรีนานาชาติบนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เพื่อโปรโมท “ที – ป็

“บิ๊กตู่” สั่งทุกโรงเรียนค้นหา “ก๊อตทาเล้น” เด็กไทยเพื่อปั้น “ดิน” ให้เป็น “ดาว” วางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หวังสร้างรายได้เข้าประเทศ วางเป้า ศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรีไทยต้องโด่งดังระดับโลก แนะจัดเทศกาลดนตรีนานาชาติบนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เพื่อโปรโมท “ที – ป็อป”

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2562 ในรายการ Government Weekly EP.16 จัดขึ้นทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. ผ่านทางเพจ “ไทยคู่ฟ้า” ในช่วง PM Talk โดยสัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ร่วมพูดคุยกับ “น้องลิลี่” ศิรินทร์ โอภาสานนท์ นักดนตรีไวโอลิน ทูตวัฒนธรรมไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงถึงประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการต่อยอดสานฝันของเด็กไทยให้ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดและพัฒนาให้ดีที่สุด รวมทั้งแนวทางการส่งเสริมสินค้าวัฒนธรรมไทยให้โด่งดังไกลสู่ระดับโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้านศิลปะวัฒนธรรมทางดนตรี โดยส่งเสริมให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาทักษะและความถนัดตั้งแต่วัยเด็กเพื่อให้มีทักษะและรู้จักความถนัดหรือ “พรสวรรค์” ของตัวเองตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองหรือโรงเรียนเข้ามาช่วยส่งเสริมสนับสนุนต่อยอดความสามารถของเด็กจนได้รับการพัฒนาก้าวหน้าจนมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศเหมือนกับน้องลิลี่ ที่เล่นดนตรี ไวโอลีนและเปียโนเก่งมากตั้งแต่เด็กจนสามารถมาศึกษาต่อในประเทศเกาหลี สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยผ่านความสามารถทางดนตรี ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าเด็กไทยทุกคนมีพรสวรรค์ไม่น้อยหน้าเด็กชาติใดในโลก สิ่งสำคัญ คือ ต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ใหญ่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการพัฒนาทักษะหรือพรสวรรค์เด็กสิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก เช่น น้องลิลี่ ค้นพบว่ารักในการเล่นดนตรีตั้งแต่ 5 ขวบ โดยมีครอบครัวและโรงเรียนสนับสนุน ดังนั้นทางรัฐบาล จะกลับไปกระตุ้นให้ระบบการศึกษาไทยสนับสนุนให้ทุกโรงเรียนช่วยค้นหาความถนัดของเด็กแต่ละคนว่าถนัดด้านใดบ้าง แล้วส่งเสริมให้ได้รับการเรียนการสอนความถนัดด้านนั้น ๆ ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงระดับปริญญาตรี พร้อมกับส่งเสริมให้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศด้วย ย่อมจะทำให้เด็กไทยก้าวเข้าสู่เวทีระดับสากลได้เหมือนกับ น้องลิลี่ ที่ปัจจุบันเป็นทูตวัฒนธรรมไทย ถือว่าเป็นเด็กไทยตัวอย่างที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศชาติ

นายกฯหนุนจัดเทศกาลดนตรีไทยนานาชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าจากกรณีของน้องลิลี่ ได้เกิดแนวคิดขึ้นว่าประเทศไทยหรือคนไทยต้องช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนศิลปะวัฒนธรรมการแสดงหรือดนตรีไทย หรือแม้แต่ภาษา วรรณคดี ศิลปะพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น อาหาร เสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือเครื่องแต่งกายของไทยต่าง ๆ ให้ก้าวหน้าทัดเทียมกับ “วัฒนธรรมเค - ป็อป” ของเกาหลีที่แพร่กระจายไปทั่วโลก เพื่อนำมาสร้างมูลค่าทาง “อุตสาหกรรมบันเทิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์” โดยเริ่มตั้งแต่การเรียนการสอนต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ของศาสตร์และศิลป์การแสดงภาพยนตร์ หรือดนตนรี นักเรียนนักศึกษาต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีระเบียบวินัย เพื่อปูทางไปสู่การวางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อนำมาเป็นรายได้เข้าประเทศ ดังนั้นจากนี้ไปเมื่อมีการแสดงหรือเวทีการประชุมหรือการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ระดับประเทศ จะต้องดึงวงดนตรีไทยมาร่วมเล่นบรรเลงกับวงดนตรีสากล เพื่อแสดงศักยภาพให้นานาประเทศได้รู้จักศักยภาพและความสามารถของดนตรีไทยและเด็กไทย ทางรัฐบาลจึงพร้อมสนับสนุนให้มีการจัดการแสดงดนตรีในพื้นที่ที่มีบรรยากาศสวยงาม เพราะไทยมีศักยภาพด้านแหล่งท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วยในตัว โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ต้องทำให้ดนตรีไทยโด่งดังไปในระดับโลก

“รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดเทศกาลดนตรีนานาชาติ เพื่อให้คนนับหมื่น ๆ มาฟังดนตรีและชื่นชมความสวยงามสถานที่ท่องเที่ยวไทย ข้อสำคัญต้องสงบเรียบร้อยด้วย หากทำได้จะเป็นโอกาสดีให้นักแสดงที่เป็นเด็กไทยได้แสดงศักยภาพให้นานาประเทศได้รู้จัก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นการวางรากฐานการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่เหล่านี้ได้มีอาชีพและการงานที่มั่นคง ผ่านการปรับเปลี่ยนวิธีคิดที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลของโลกเทคโนโลยีที่คนรุ่นใหม่ต้องมีศักยภาพและความรู้ด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การตลาดออนไลน์ การเงินการบัญชี การลดต้นทุนการผลิต เครื่องจักร การบริการท่องเที่ยว หรือ Internet of Things (IoT) เพราะอนาคตอุปกรณ์ต่าง ๆ เชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกอินเตอร์เน็ต ดังนั้นทั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น สตาร์ทอัพกลุ่มธุรกิจดนตรี ศิลปะ และนันทนาการ (MarTech ) จำเป็นต้องมีความรู้เหล่านี้ หรือ ธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หรือ โซเชียลเอ็นเตอร์ไพรส์ ต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันด้วยเช่นกัน