posttoday

ไพบูลย์โต้อนาคตใหม่ ชี้ "มาดามเดียร์" ขายหุ้นไม่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติส.ส.

25 พฤศจิกายน 2562

"ไพบูลย์" ชี้ การขายหุ้นของ "มาดามเดียร์" ต่างจาก "ธนาธร" จึงไม่ขาดคุณสมบัติ ส.ส.

"ไพบูลย์" ชี้ การขายหุ้นของ "มาดามเดียร์" ต่างจาก "ธนาธร" จึงไม่ขาดคุณสมบัติ ส.ส.

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบเอาผิดการถือครองหุ้นสื่อของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐนั้น ตนเห็นว่ากรณีการขายหุ้นสื่อของ น.ส.วทันยา แตกต่างกับกรณีการขายหุ้นสื่อ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจอย่างสิ้นเชิง

ดังปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 14/2562 วันที่ 20 พ.ย. 2562 ปรากฏข้อเท็จจริงในคำวินิจฉัย หน้าที่ 22 และ หน้าที่23 ว่า นายธนาธร อ้างว่าได้ขายหุ้นสื่อให้แก่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจในวันที่ 8 ม.ค. 2562 และนางสมพร ได้ชำระเงินค่าหุ้นสื่อจำนวนเงิน 6,750,000 บาท โดยสั่งจ่ายด้วยเช็ดธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฉบับ ลงวันที่ 8 ม.ค. 2562 แต่ปรากฏว่านำเช็คไปเรียกเก็บเงินเข้าบัญชีนายธนาธร ในวันที่ 16 พ.ค. 2562 เป็นระยะเวลานานถึง 128 วัน เป็นเวลาถึง 4 เดือนเศษนับจากวันออกเช็ค ซึ่งเป็นวันที่ 8 ม.ค. 2562 ศาลเห็นว่า นายธนาธร สามารถนำเช็คเข้าบัญชีตั้งแต่ วันที่ 9 ม.ค. 2562 แต่กลับนำเข้าบัญชี วันที่ 16 พ.ค. 2562 ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงสำคัญ ศาลจึงไม่เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นจริงในวันที่ 8 ม.ค. 2562

ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกรณีการขายหุ้นสื่อของน.ส.วทันยา ซึ่งปรากฏหลักฐานการสั่งขายหุ้นเกิดขึ้นในวันที่ 11และ12 ธ.ค. 2561โดยขายหุ้นสื่อทั้งหมดผ่านโบรกเกอร์ 3 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ตัวแทนขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และต่อมาบริษัทตัวแทนขายหุ้น ก็ได้โอนเงินค่าหุ้นสื่อเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี น.ส.วทันยา ในวันที่ 13 และ 14 ธ.ค. 2561 ยอดเงินรวม 41 ล้านบาท ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินปรากฏอยู่ในสมุดเงินฝากธนาคารของน.ส.วทันยา

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ตามกฏหมายแล้วจึงถือว่าได้มีการขายหุ้นสื่อเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น น.ส.วทันยา จึงขาดจากการเป็นผู้ถือหุ้นสื่อ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2561 ซึ่งต่อมาอีกประมาณ 2เดือน ได้ไปสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส จึงไม่มีปัญหาเรื่องการขาดคุณสมบัติเพราะเหตุแห่งการถือหุ้นสื่อ ดังที่ น.ส.พรรณิการ์ ร้องต่อ กกต.