"วิษณุ"เผย ในหลวงโปรดเกล้าฯจัดขบวนราบใหญ่เพิ่มในพระราชพิธี 12 ธ.ค.
"รองนายกฯวิษณุ" เผยในหลวงโปรดเกล้าฯ จัดขบวนราบใหญ่ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ในพระราชพิธีฯ 12 ธ.ค. เชิญชวนประชาชนสวมเสื้อเหลืองเฝ้าฯ รับเสด็จ
"รองนายกฯวิษณุ" เผยในหลวงโปรดเกล้าฯ จัดขบวนราบใหญ่ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ในพระราชพิธีฯ 12 ธ.ค. เชิญชวนประชาชนสวมเสื้อเหลืองเฝ้าฯ รับเสด็จ
เมื่อวันที่ 20 พย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากวันที่ 24 .ต.ค. เป็น 12 ธ.ค. โดยการประชุมวันนี้พิจารณาเตรียมดำเนินการตามพิธีการเดิม โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ยังคงใช้เรือจำนวน 52 ลำตามเดิม จะมีพิธีซ้อมใหญ่เสมือนจริง ในวันที่ 9 ธ.ค. แต่จะเปลี่ยนแปลงเวลาจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินเวลา 15.30 น. เป็น13.30 น. โดยคำนวนกระแสน้ำในวันดังกล่าวซึ่งจะตรงกับกระแสน้ำในวันพระราชพิธีจริง จึงทำให้ต้องเลื่อนเวลาฝึกซ้อม และในวันดังกล่าวจะเป็นการซ้อมเฉพาะทางน้ำ
นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการจัดพื้นที่สำหรับผู้รับเสด็จ บริเวณสวนหลวง รัชกาลที่ 8 เชิงสะพานพระราม 8 สามารถจุคนได้ 2,500 คน โดยจะมีคณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. ส.ว. ฝ่ายตุลาการ คณะทูตานุทูตฝ่ายต่างประเทศ ผู้แทนต่างประเทศ ส่วนที่สวนสันติชัยปราการ ถนนท่าพระอาทิตย์ บริเวณป้อมพระสุเมรุ จะเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รองนายกรัฐมนตรีและประธานองค์กรอิสระ
“จุดที่สำคัญที่สุดคือจุดเริ่มต้นที่ท่าวาสุกรี และจุดปลายทางที่ท่าราชวรดิษฐ์ ระยะทาง3.4 กิโลเมตร โดยรวมระยะเวลาของพระราชพิธีทั้งหมด 1.15 ชั่วโมง ซึ่งจุดนี้นายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานศาลฏีกา ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะรอเฝ้าส่งเสด็จที่ท่าวาสุกรี จากนั้นจะรีบขึ้นรถเพื่อมารอรับเสด็จที่ท่าราชวรดิษฐ์” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า บริเวณตึกใหญ่ 2 หลังของธาคารแห่งประเทศไทย บริเวณพระตำหนักเก่าจะเป็นที่รับรองนักธุรกิจและบุคคลสำคัญของภาคเอกชน ส่วนตึกศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย จะเป็นที่ประทับของพระอนุวงศ์ พระราชวงศ์ในระดับเจ้านาย โดยไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ไปเอง เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร ต้องไปขึ้นรถที่จุดรวมพลตามที่นัดหมายไว้ โดยจะมีรถนำขบวนเช่นเดียวกับเวลาเดินทางกลับ เช่น คณะรัฐมนตรี(ครม.) ทั้งคณะให้มาเริ่มต้นที่ทำเนียบรัฐบาล คณะทูตานุทูตให้รวมพลที่กระทรวงการต่างประเทศ สมาชิกรัฐสภารวมพลที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย พระราชวงศ์จะรวมพลที่วชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งในวันดังกล่าวจะรณรวค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง และการเข้าเฝ้ารับ- ส่งเสด็จสามารถทำได้ในเส้นทางถนนราชดำเนิน
นายวิษณุ กล่าวว่า การจัดพระราชพิธีในวันที่12 ธ.ค. ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนราบใหญ่เพิ่มเติม จากเดิมเมื่อขบวนเรือถึงท่าราชวรดิษฐ์ จะเสด็จขึ้นและเข้าประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วขึ้นรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับพระที่นังอัมพรสถาน แต่เพิ่มเติมโดยเมื่อเรือมาถึงท่าราชวรดิษฐ์ จะเสด็จขึ้นที่พลับพลาก่อนเสด็จไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เจ้านายบางพระองค์ เช่น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จะเสด็จเพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ ต่อจากนั้นจะมีขบวนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ที่เรียกกันว่าขบวนราบใหญ่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค
“จะเสด็จออกจากพระที่นั่งราชกิจวินิฉัย โดยประทับพระที่นั่งพุฒิตาลทองและเข้าขบวนแห่ โดยทหารกองทัพภาคที่1 จะนำขบวนมีคู่เคียงเหมือนริ้วขบวนพยุหยาตราคราวที่แล้ว แต่มีขนาดเล็กลงมา นายกรัฐมนตรีและบุคคลอื่นจะไม่ได้เข้าร่วมขบวน สำหรับสมเด็จพระราชินี ไม่ทราบชัดเจนว่าจะร่วมขบวนด้วยหรือไม่ โดยขบวนจะยาตราออกจากท่าราชวรดิษฐ์มาตามถนนมหาราช เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน และเลี้ยวขวาเข้าบริเวณถนนพระราชวังที่ประตูวิเศษชัยศรี เข้าสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ เพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยจะไม่มีการไปรับและส่งเสด็จ จะส่งที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยเท่านั้น และเพื่อให้ขบวนพยุหยาตราในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนจบลงโดยสมบูรณ์ คือมีทั้งขบวนพระยุหยาตราทางชลมาตร ขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ซึ่งประชาชนสามารถเฝ้าชมพระบารมี รับเสด็จได้ทั้งสองฝั่งถนน ทั้งถนนหน้าพระลานและถนนราชดำเนิน กรุงเทพมทหานครมีหน้าที่ประดับตกแต่ง ธง ดอกไม้ตลอดเส้นทางเสด็จ” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนการประชาสัมพันธ์งาน นายวิษณุ กล่าวว่า จากเดิมที่จะมีงานอุ่นไอรักในวันที่ 8 ธ.ค. เมื่อไม่มีงานดังกล่าวแล้ว การถ่ายทอดพระราชพิธีทั้งทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั้งภาคไทยและภาษาอังกฤษแล้ว จะเพิ่มการใช้โดรนกว่า 10 ตัวในการถ่ายทอดสดด้วย โดยกำหนดจุดถ่ายทอดภาพและจุดที่ให้ผู้สื่อข่าวปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสวยงาม ที่ประชุมจึงมีมติให้ใช้จุดที่สวยงามที่สุดบริเวณป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นบริเวณโค้งน้ำที่สามารถเห็นเรือทั้ง 52 ลำได้อย่างชัดเจน
นายวิษณุ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าทุกอย่างเรียบร้อย การปิดถนนต่าง ๆ จะใช้วิธีปิดช้า เปิดเร็ว คงไม่มีปัญหามากนัก เพราะใช้เวลารวมพลเป็นจุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับเรื่องการเตรียมยา การรักษาพยาบาล อาหาร น้ำดื่ม ให้สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงจุดการเฝ้ารับเสด็จสำหรับภาคเอกชนและประชาชน จุดสำคัญอันดับ 1 คือโรงเรียน โรงพยาบาล วัด ร้านอาหาร ที่อยู่อาศัย คอนโดมีเนียม ห้องชุดที่อยู่ริมน้ำ การเข้า-ออกอาจลำบากบ้าง แต่ได้ขอความร่วมมือให้อำนวยความสะดวกเรื่องการใช้ห้องน้ำ
“จุดเพิ่มเติมที่ประชาชนสามารถเฝ้ารับเสด็จ คือบริเวณด้านขวาของเชิงสะพานพระราม8 ไปถึงวัดคฤหสบดี สามารถจุคนได้หลายพันคน ที่เหลือสามารถกระจายไปยัง 6 วัดที่อยู่ริมน้ำตามเส้นทางเสด็จคือวัดราชธิวาส วัดเทวราชกุญชร วัดบวรมงคล วัดคฤหสบดี วัดสามพระยาและวัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อเรือผ่านวัดใด พระสงฆ์จะออกมาที่พลับพลาหน้าวัด พร้อมเจริญพระพุทธมนต์ สวดชยันโตตามธรรมเนียม ทั้งนี้ พระราพิธีวันที่12 ธันวาคมนี้ ไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ เพราะช่วงเวลาพระราชพิธีจะเลยเวลาราชการ ขบวนเรือจะเริ่มที่เวลา15.30 น. และมาจบที่ท่าราชวรดิษฐ์เวลา 16.30 น. จากนั้นจึงจะเป็นขบวนราบใหญ่จะใช้เวลาอีก 25 นาที ซึ่งคงจะเลยเวลา17.00 น. ไปแล้ว” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับเรือพระที่นั่งจะใช้ 4 ลำใหญ่ เรือนำคือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์เป็นพระมงคลที่นำขบวนทุกครั้งในประเทศไทย ลำที่ 2 เป็นเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เป็นเรือที่ประทับ เรือลำที่ 3 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือที่ประทับพระบรมวงศ์ และเรือลำที่ 4 เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง นอกนั้นเป็นเรือดั้ง เรือแซง และเรือต่าง ๆ ทั้งหมด 52 ลำที่เรียกว่าขบวนพยุหยาตราใหญ่