posttoday

"สุวัจน์" เชื่องบฯปี63ผ่านจะช่วยกระตุ้นศก.

25 กันยายน 2562

"สุวัจน์" เชื่องบฯปี63ผ่านจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะรัฐบาลทำให้ประชาชน ยอมรับช่วยพยุงเสียงปริ่มน้ำ แก้รธน.ต้องไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ

"สุวัจน์" เชื่องบฯปี63ผ่านจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะรัฐบาลทำให้ประชาชน ยอมรับช่วยพยุงเสียงปริ่มน้ำ แก้รธน.ต้องไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถีซอย 20 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากจะมีการพิจารณางบประมาณมากถึง 3 ล้านล้านบาท ประชาชนให้ความสำคัญ เพราะคาดหวังว่าการเมืองจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หากเราสามารถบริการจัดการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพได้ งบประมาณครั้งนี้ผ่านการพิจารณาและนำไปใช้ได้จะเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็นเงินก้อนโตที่มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจเราผูกพันกับเศรษฐกิจโลก โดยตอนนี้อยู่ในยุคถดถอยและกลุ่มประเทศคู่ค้ากับไทยมีปัญหาหมด ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ทำให้กระทบกับไทยต้องพึ่งพาตนเองมากขึ้น และต้องพึ่งการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นหากงบประมาณ 3 ล้านล้านบาทผ่านได้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาลและรัฐบาลต้องชี้แจงให้เพื่อนสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆเข้าใจด้วย

เมื่อถามว่า ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นตัวกำหนดอายุรัฐบาลหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เสถียรภาพรัฐบาลขึ้นอยู่กับเสถียรภาพในสภาฯ ที่มีเสียงปริ่มน้ำ และเสถียรภาพนอกสภาฯ คือการยอมรับของประชาชนเพราะจะช่วยพยุงเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ เปรียบเสมือนเป็นห่วงยางช่วยให้รัฐบาลลอยอยู่เหนือน้ำได้ ดังนั้นรัฐมนตรีต้องขยันทำงาน เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไม่มีเรื่องเสียหาย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพนอกสภาฯให้ได้ รัฐบาลต้องยอมรับว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมานั้นไม่ง่าย เพราะจัดตั้งท่ามกลางการเมืองที่แบ่งขั้วอย่างชัดเจน เนื่องจากพื้นฐานรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ๆและพรรคที่มีเสียงน้อยๆ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผลการเลือกตั้งพลิกล็อคจนเกิดพรรคใหม่ที่มีส.ส.เพียง 1 เสียงหลายพรรค ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยากลำบากที่จะให้มีเสถียรภาพ และรัฐบาลต้องพยายามบริหารจัดการเสียงส.ส.ที่มี 250 ต้นๆ ถือว่ายากลำบากในการลงคะแนน ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ชนะโหวตจึงเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้จะมีการลงมติเรื่องต่างๆ ต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากๆ ต้องดูแลเสียงให้ชนะกฎหมายที่สำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน แม้ว่าจะเหนื่อยก็ต้องยอมรับ ทุกคนต้องไม่ขาดประชุมเพื่อชนะโหวต

เมื่อถามว่า คิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนด้วยการลงประชามติมาแล้ว แต่มีหลายฝ่ายมีความคิดที่จะแก้ไข ทางพรรคชาติพัฒนาเคยพูดแล้วว่าถ้าใช้ไปแล้วมีปัญหามาพูดคุยกันได้ ตอนนี้เราใช้รัฐธรรมนูญมาระยะหนึ่งแล้ว พรรคฝ่ายค้านยื่นเสนอให้ศึกษาแก้ไข รวมถึงพรรครัฐบาลเอง และนักวิชาการกลุ่มต่างๆ เราต้องดูว่ามีประเด็นอะไรที่สังคมและประชาชนคิดว่าควรแก้ไข หากสภาฯมีญัตติให้ความเห็นชอบก็เชิญหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาเป็นกรรมาธิการ เพื่อช่วยกันแสดงความคิดเห็นป็นแนวทางที่ดี

เมื่อถามว่า มุมมองส่วนตัวคิดว่าควรแก้ไขหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องที่เราเห็นชัดเจนว่ามีปัญหาในการปฏิบัติ แต่ต้องไม่แก้เพื่อให้ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบโดยเฉพาะทางการเมือง ต้องเปิดกว้างให้ประชาชน นักวิชาการ และกลุ่มอาชีพต่างๆมาช่วยให้ความคิดเห็น การเมืองในยุคนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ มีเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่ และกระแสของประชาชน ปัจจัยเหล่านี้การเมืองในอดีตไม่มี โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญ นักการเมืองต้องระมัดระวังตัวเอง รอบคอบเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ