"สนธิรัตน์"ปัด "ส.ส.เพื่อไทย"ย้ายขั้ว ชี้ เป็นแค่ข่าว- ไม่ขัดแก้รธน.
“สนธิรัตน์” รับนักการเมืองคุยกันอยู่แล้ว ปัด “ส.ส.เพื่อไทย” ย้ายขั้ว ชี้ เป็นแค่ข่าว ไม่มีการยืนยัน ไม่ขัด แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเห็นพ้อง แก้ไขได้ทุกเรื่อง
“สนธิรัตน์” รับนักการเมืองคุยกันอยู่แล้ว ปัด “ส.ส.เพื่อไทย” ย้ายขั้ว ชี้ เป็นแค่ข่าว ไม่มีการยืนยัน ไม่ขัด แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าเห็นพ้อง แก้ไขได้ทุกเรื่อง
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยเตรียมย้ายขั้วมาสนับสนุน พปชร.ว่า ตนได้ยินจากข่าวแต่คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไร และไม่มีการยืนยันใดๆ เป็นแค่ข่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องการย้ายขั้วคิดว่าคงมีการพูดคุยกันบ้าง เพราะ ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านทำงานร่วมกัน นักการเมืองเขาคุยกันอยู่แล้ว จะไปห้ามไม่ให้พบปะพูดคุยคงไม่ได้
“ในสภาหรือในกรรมาธิการทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก็พูดคุยกัน ตนมองในเชิงประโยชน์ของประเทศชาติ ทุกคนคงคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีประโยชน์ หากอะไรที่มีประโยชน์ ส.ส.คงจะช่วยกันประคับประคองการทำงานของทุกฝ่ายให้เดินไปข้างหน้า” นายสนธิรัตน์กล่าว
เมื่อถามว่าการพูดคุยมีลักษณะของการทาบทามหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดที่เขาคุยกัน และไม่มีการมอบหมายให้ใครไปพูดคุย ทุกคนมีเพื่อนฝูงก็คุยกันเอง เป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคลมากกว่า ไม่ทราบถึงจำนวนที่มีการพูดคุยกันว่าจะเป็นไปตามกระแสข่าวที่ระบุว่า 20 คนหรือไม่ คงต้องรอให้เห็นความชัดเจน รู้แต่ว่าเขารู้จักกันหมด เพราะส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกัน ใครสนิมกับใครก็คุยกับคนนั้นมากหน่อย ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดเผยคลิปเสียงการพูดคุยนั้น มีอะไรก็เอามาคุยกัน ตนไม่ทราบข้อมูลตรงนั้น
เมื่อถามว่าการชนะโหวตในสภาของรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นเพราะเสียงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าทุกพรรคมี ส.ส.ที่ติดภารกิจอยู่แล้วทุกพรรค ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เสียงไม่เคยครบร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การที่ ส.ส.หายไปอย่ามองว่าเป็นการดึงตัว
เมื่อถามว่าประเด็นสำคัญคือหาหลักประกันเพื่อให้ร่าง พรบ.งบประมาณผ่านสภาใช่หรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์กล่าวว่าหน้าที่ของรัฐบาลคือประคับประคองการดำเนินงานตามแผนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ร่าง พรบ. งบประมาณเป็นเรื่องที่จะพิจารณาในสมัยประชุมวิสามัญ 17 ต.ค.นี้ ตามกลไกรัฐสภา โดยหวังว่าเสียงรัฐบาลจะมากกว่าฝ่ายค้านทุกครั้งที่มีการโหวต เพราะรัฐบาลต้องเป็นเสียงข้างมากในสภา และหากฝ่ายค้านเห็นดีด้วยโหวตให้ก็ถือว่าช่วยกัน
เมื่อถามย้ำว่าการย้ายขั้วจะเป็นการย้ายเฉพาะกิจสำหรับร่าง พรบ. งบประมาณเท่านั้นหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์กล่าวว่าเรื่องนี้คงเร็วเกินกว่าที่จะประเมินว่าเป็นอย่างไร เพราะยังเป็นเพียงกระแสว่ามีการพูดจากัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนความชัดเจนจะมีขึ้นหลังการเปิดประชุมภาหรือไม่นั้น ตนมองว่ายากถ้าจะพูดอย่างนั้น ส.ส.ทุกคนมีความคิดเห็นจุดยืนและเอกสิทธิ์ของตนเอง ยากที่จะไปประเมินความคิดเห็นของแต่ละคน เร็วเกินไปที่จะพูดคุยเรื่องนี้
นอกจากนี้นายสนธิรัตน์ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรค พปชร. ระบุชัดเจนว่าเมื่อใช้รัฐธรรมนูญสักระยะหนึ่งแล้ว อาจพิจารณาตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษาจุดอ่อนหรือปัญหาของรัฐธรรมนูญ โดยต้องเริ่มที่สภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกัน พรรค พปชร. กำลังดูอยู่ว่าอะไรคือจุดอ่อนในการบังคับใช้หรือการปฏิบัติ โดยเมื่อทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าอะไรคือจุดอ่อน ก็จะแก้ไขได้ทุกเรื่อง พร้อมกันนี้ยังต้องถามความเห็นจากประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติมา
เมื่อถามว่าตอนนี้ฝ่ายค้านรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างหนัก โดยระบุพรรค พปชร. ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากที่สุดนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คิดว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับมีจุดแข็งและจุดอ่อน รัฐธรรมนูญที่แล้วมาเกิดขึ้นตามแต่สถานการณ์ ซึ่งจะต้องพูดคุยกันต่อไป โดยจะดูว่าอะไรที่เป็นปัญหาและข้อกำกัด ก่อนเสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา