posttoday

"จตุพร" ย้อนบทเรียนรื้อ "รธน. 40" ย้ำประชาชนต้องเดินหน้าก่อน

08 กันยายน 2562

"จตุพร"ย้อนบทเรียนรื้อรัฐธรรมนูญ 40 ย้ำประชาชนต้องส่งเสียงนำ พรรคการเมืองจึงจะขยับตามเพื่อให้เกิดการแก้ไข

"จตุพร"ย้อนบทเรียนรื้อรัฐธรรมนูญ 40 ย้ำประชาชนต้องส่งเสียงนำ พรรคการเมืองจึงจะขยับตามเพื่อให้เกิดการแก้ไข

เมื่อ 8 ก.ย. 2562 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการพีซทีวีเวทีทัศน์ โดยย้ำถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560ว่า แม้จะมีความยากลำบาก แต่เป็นไปได้ ถ้าได้พลังเข้มแข็งของประชาชนมาหนุนนำ สะท้อนความต้องการด้วยเสียงดังทั่วประเทศ

นายจตุพร ได้ย้อนถึงบทเรียนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2534 ซึ่งเกิดจากเสียงเรียกร้องของประชาชนทั่วประเทศเช่นกันจนทำให้พรรคการเมืองต้องมาตอบสนอง ว่า บทเรียนในชีวิตที่เกี่ยวรัฐธรรมนูญนั้น ตนเองได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2534 ตอนนั้นมีปัญหาเช่นเดียวกัน คือ มีนายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มีคนที่ถูกคัดเลือกจาก รสช. เป็นประธานสภา ทั้งๆที่สถานการณ์เวลานั้นกระแสประชาชนรุนแรงมาก เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มีการบาดเจ็บล้มตาย

จากนั้นเราได้รัฐธรรมนูญ 2540 โดยการนำเอารัฐธรรมนูญ 2534 มาแก้ โดยร้อยตรีฉลาด วรฉัตร เป็นผู้จุดประกาย เสนอความคิดเชิงอุดมคติ เพื่อให้ประเทศไทยได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งเป็นฉบับที่ทำให้เราดีใจกันเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญแห่งนวัตกรรม เป็นจุดเริ่มต้นขององค์กรอิสระทั้งหลาย

แต่แล้วเพียง 9 ปี ก็เกิดยึดอำนาจปี 2549 คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญคณะเดียวกัน ได้เอาบทเรียนจากรัฐธรรมนูญ 2540 มาแก้ไข ได้รัฐธรรมนูญ 2550 โดยได้แก้ไขประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่ง นั่นคือ พรรคไทยรักไทย ได้เสียงมากเกินไป ทำให้ฝ่ายค้านไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่า การมีพรรคการเมืองเข้มแข็งมากเกินไปจะเป็นภัย

นายจตุพรกล่าวว่า ในยุคนั้น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ใจกว้างกว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ผู้รณรงค์ไม่รับร่างประชามติรัฐธรรมนูญ 2550 สามารถเดินสายรณรงค์ได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าประชามติครั้งนั้น มีผู้โหวตรับร่างรัฐธรรมนูญ มากกว่าไม่รับ ด้วยต้องการการเลือกตั้ง ให้ คมช.ออกจากอำนาจโดยเร็ว โดยที่ไม่ทราบภัยที่แฝงไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นคือ เราได้ประชาธิปไตยเพียงแค่พิธีกรรม เลือกตั้ง แต่เผด็จการได้ส่งคนแฝงตัวอยู่ในองค์กรอิสระทุกองค์กรแล้ว

นายจตุพร กล่าวว่า แม้ดูว่าการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 จะเป็นไปไม่ได้ เราก็ต้องทำให้เป็นไปให้ได้ ประชาชนต้องส่งเสียง ก่อนหน้าแก้รัฐธรรมนูญปี 2540 ฝ่ายการเมืองก็ไม่เห็นด้วย แต่ประชาชนเดินหน้าสุดท้ายพรรคการเมืองก็ต้องกลับลำ เพราะประชาชนเห็นชอบกันทั้งแผ่นดินแล้ว

“ตอนนี้ แม้จะยากกว่าตอนนั้น แต่เราต้องการความสำเร็จ ให้ประชาชนนำพรรคการเมืองในการแก้ไข ซึ่งกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญคือ เราต้องอธิบายให้ประชาชนเห็นถึงปัญหาความเดือดร้อน ไม่มียุคใดที่ลำบากขนาดนี้ ปัญหาที่ประชาชนเจอในวันนี้มี 3 อย่าง คือ เจอน้ำท่วม เจอน้ำแล้ง และเจอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร ย้ำว่า ฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจมาอย่างเป็นระบบมีวินัย ต่างจากฝ่ายประชาธิปไตยที่มาด้วยจิตอาสา ทำให้เราสู้ไม่ได้ เราต้องชนะ ด้วยการได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน เรื่องที่สำคัญมากกว่าการได้ 5 หมื่นรายชื่อ คือเราต้องทำให้คนไทยพูดเป็นเสียงเดียวกันให้หมดว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าไม่แก้ คนไทยจะลำบาก และจะเดือดร้อนยิ่งกว่าที่เป็นอยู่

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าไปถึงจุดต้องตัดอำนาจ สว.แล้ว ยอมเป็นสิ่งที่ยากที่สุด แต่ก็สามารถเป็นไปได้ ถ้าประชาชนมีพลังแข็งแรง เข้มแข็งกันจริงๆ เพราะ รัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้ทุกอย่างยากไปหมด ไล่ประยุทธ์ไป ก็ได้ประยุทธ์มา ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนเข้มแข็ง เสียงดังพร้อมกัน ยืนกันอย่างแข็งแรง ก็สามารถแก้ได้”นายจตุพรกล่าว