posttoday

ตัดสิทธิ์การเมือง5ปี "อดีตส.ก." ภรรยาส.ส.เพื่อไทยจงใจปกปิดทรัพย์

15 สิงหาคม 2562

ศาลฎีกานักการเมือง พิพากษาคุก 1 เดือน ปรับ 4 พัน "ชญาดา"อดีต ส.ก. ภรรยา "พลภูมิ" ส.ส.เพื่อไทย จงใจปกปิดบัญชีเงินฝาก-หนี้ หลังโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี พร้อมตัดสิทธิ์การเมือง5ปี

ศาลฎีกานักการเมือง พิพากษาคุก 1 เดือน ปรับ 4 พัน "ชญาดา"อดีต ส.ก. ภรรยา "พลภูมิ" ส.ส.เพื่อไทย จงใจปกปิดบัญชีเงินฝาก-หนี้ หลังโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี พร้อมตัดสิทธิ์การเมือง5ปี

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษา 9 คน นัดพิจารณาครั้งแรกสอบคำให้การ คดีหมายเลขดำ อม.23/2562 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัย นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ภรรยาของนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กรณีกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ในช่วงการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินฯ เมื่อเข้ารับตำแหน่งและพ้นตำแหน่ง ส.ก. โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า นางชญาดามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81, 167

โดย นางชญาดา ให้การรับสารภาพ องค์คณะฯพิจารณาแล้ว จึงมีคำพิพากษา เห็นว่า นางชญาดาได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ก. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.54 และพ้นตำแหน่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 ส.ค.57 ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ หลังเข้ารับตำแหน่งวันที่ 23 ก.ย. 54 ไม่ได้แสดงรายการเงินฝากธนาคาร 2 บัญชี จำนวน 7,908.40 บาท และ 167,200 บาท , รายการเบิกเงินเกินบัญชี 1 รายการ ยอดหนี้คงเหลือ 40,922.09 บาท และการยื่นแสดงบัญชีหลังพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 57 ไม่ได้แสดงรายการเงินฝากธนาคาร 3 บัญชี จำนวน 5,324.34 บาท , จำนวน 10,000 บาท และจำนวน 15,696.74 บาท ตามลำดับ กับรายการเบิกเงินเกินบัญชี 2 รายการยอดหนี้คงเหลือ 166,684.74 บาท และ 17,986.94 บาท

นางชญาดา ดำรงตำแหน่ง ส.ก. จึงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ของตน-คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ใน 30 วัน นับแต่เข้ารับตำแหน่ง , ในวันพ้นตำแหน่ง และวันพ้นตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ตาม มาตรา 32-33 โดย นางชญาดา ชี้แจงอ้างว่า สมุดบัญชีหาย และธนาคารเจ้าของบัญชีตรวจสอบบัญชีตกหล่น ส่วนรายการหนี้นั้นเป็นบัตรเครดิตไม่ใช่เงินกู้ และไม่ใช่สัญญากู้ยืมเงิน จึงไม่ต้องแสดง

องค์คณะ พิเคราะห์แล้ว ตามพฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางชญาดา ผู้คัดค้าน มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ เป็นหน้าที่สำคัญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง , 119 แม้ต่อมาได้มี พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ก.ค.61 โดยยกเลิกกฎหมายฉบับเดิม แต่กฎหมายใหม่ยังคงบัญญัติให้การกระทำตามคำร้องนั้นเป็นความผิด และระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ขณะกระทำความผิดบังคับแก่คดีนี้

ส่วนมาตรการบังคับทางการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 ไม่ใช่กฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะกระทำความผิด องค์คณะฯจึงมีมติด้วยเสียงข้างมาก เห็นว่าต้องใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 บังคับในคดีนี้

องค์คณะฯ จึงพิพากษา ห้าม นางชญาดา ผู้คัดค้าน ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.57 ซึ่งเป็นวันที่ นางชญาดา พ้นจากตำแหน่งสุดท้ายมาแล้ว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กรณีที่จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ต่อ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ก.

และยังพิพากษาให้ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ตาม มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ต่อ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จฯ ซึ่งผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท โดยไม่ปรากฏว่า นางชญาดา ผู้คัดค้านเคยรับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ นายพลภูมิ สามี ที่เป็น ส.ส.เขตบึงกุ่ม พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีต ส.ก. 4 สมัย ก็ถูก ป.ป.ช.ฟ้องคดีบัญชีทรัพย์สินฯ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นเดียวกัน เป็นคดีหมายเลขดำ อม.3/2562 โดยศาลนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การในวันที่ 12 ก.ย. นี้