โฆษกรบ. พร้อมทำงานสร้างสรรค์ เผย "บิ๊กตู่"ให้ฟังคนเห็นต่าง

โฆษกรัฐบาลคนใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล  เผย"นายกฯ" ให้เป็นตัวแทน พูดผ่านสื่อถึง ประชาชน ให้ใช้ภาษาชาวบ้าน อย่าใช้ภาษาวิชาการ ให้ตอบโต้ทางการเมืองเชิงสร้างสรรค์  รับฟังคนเห็นต่าง  พร้อมประสาน ศูนย์เฟคนิวส์ ขจัดปัญหาข่าวลวงออนไลน์

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยสักการะท้าวมหาพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้น นางนฤมล ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เป็นตัวแทน พูดผ่านสื่อถึง ประชาชน ให้ใช้ภาษาชาวบ้าน  ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย  แม้เป็นอาจารย์ แต่ก็อย่าใช้ภาษาวิชาการ นายกฯตัองการให้เล่าให้เห็นความเชื่อมโยงในสิ่งที่รัฐบาลทำ

ส่วนการตอบโต้ทางการเมืองนั้น นางนฤมล  กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ก็ต้องพร้อมในการตอบโต้ชี้แจงเรื่องทางการเมือง แต่จะตอบคำถามเชิงสรรค์ ไม่ตอบโต้ จนทะเลาะเบาะแว้ง  ต้องอดทน และขอกำลังใจ ด้วย

เมื่อถามว่า เสียดาย หรือไม่ ที่ต้องลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ นางนฤมล กล่าวว่า  ไม่ใช่เรื่อง เสียดายหรือ เสียสละอะไร  แต่เมื่อได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่ง เท่านั้น  ในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ คนหนึ่ง ที่กล้าเดินเข้ามา พร้อมที่จะเผชิญ และต้องการสร้างการเมืองใหม่ ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้เปิดกว้าง รับฟังคนเห็นต่าง ให้เขาได้แสดงความคิดเห็น และรับฟัง

นางนฤมล กล่าวว่า สำหรับทีมงานรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้มอบหมายให้ใครทำ และยังไม่ได้บอกว่าจะเป็นใครบ้าง เข้าใจว่ายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคัดสรร ส่วนแนวทางการทำงานหลังจากนี้นั้น ตั้งใจว่าจะให้ทีมโฆษกรัฐบาลตอบคำถามและทำงานอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ตอบโต้ในลักษณะที่ทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งนี้ เมื่อได้คณะทำงานครบแล้ว ก็จะมีการหารือกันอีกครั้ง ว่าจะทำงานเชิงสร้างสรรค์กันอย่างไร นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังต้องการให้มีการเปิดกว้าง เปิดโอกาสให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ได้แสดงความคิดเห็น ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องรับฟังด้วย

ส่วนกรณีที่กระทรวงดิจิทัล เศรษฐกิจ เพื่อสังคม(ดีอี) มีนโยบายตั้งศูนย์ป้องกันข่าวปลอมนั้น นางนฤมล กล่าวว่า ทีมโฆษกรัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนการทำงาน เพราะที่ผ่านมาก็ได้หารือกับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล เศรษฐกิจ เพื่อสังคม ว่าควรจะพัฒนาร่วมกันอย่างไร หลังจากนี้คงมีแนวทางว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไร เพราะทุกคนทราบดีว่าการสื่อสารในยุคสมัยนี้ไม่ได้มีแค่สื่อสาธารณะ แต่ยังมีโซเชียลมีเดีย ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ข่าวหลวงจะถูกปล่อยออกมา ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่มีปัญหากับความเห็นต่าง เพราะความเห็นต่างเป็นอิสรภาพทางความคิด แต่ถ้าเป็นการสร้างเรื่องข่าวปลอมขึ้นมา ก็จะต้องตรวจสอบ เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม โดยแนวคิดของรัฐมนตรีดีอีนั้น ไม่ได้ให้ภาครัฐเข้าไปกำกับว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่จะมอบหมายให้องค์กรกลาง ภาครัฐ ภาคเอกชน อาจมีสื่อมวลชนเข้าไปดูแลด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ต่างประเทศก็ทำอยู่แล้ว