posttoday

"บิ๊กป้อม" ถกสภากลาโหมนัดพิเศษ ขอกองทัพปฏิบัติภารกิจด้วยความอดทน

15 กรกฎาคม 2562

"ประวิตร" ประชุมสภากลาโหมนัดพิเศษ ขอบคุณทุกเหล่าทัพทำหน้าที่เป็นกลไกหลักของรัฐบาล ฝากทหารปฏิบัติภารกิจด้วยความอดทน-เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ

"ประวิตร" ประชุมสภากลาโหมนัดพิเศษ ขอบคุณทุกเหล่าทัพทำหน้าที่เป็นกลไกหลักของรัฐบาล ฝากทหารปฏิบัติภารกิจด้วยความอดทน-เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติ

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 62 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหมวาระพิเศษ โดยมีหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งการประชุมดังกล่าวนับเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของพล.อ.ประวิตรในฐานะ รมว.กลาโหม

พ.อ.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าว ขอบคุณสมาชิกสภากลาโหมและกำลังพล ของทุกเหล่าทัพ ที่ร่วมกันทำหน้าที่เป็นกลไกหลักของรัฐบาล ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงต่อเนื่องเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งด้านการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน การปกป้องสถาบันหลักของชาติ และการดูแลผลประโยชน์ชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือประชาชนและการสนับสนุนภารกิจที่รัฐบาลมอบหมาย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาพรวมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการทหารกับเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ มีพัฒนาการทางบวกในทุกด้าน

ขณะเดียวกัน เสถียรภาพความมั่นคงภายในประเทศที่มีมากขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจ รวมทั้งด้านสังคมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามรูปแบบใหม่และความท้าทายด้านความมั่นคงที่หลากหลายมากขึ้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนมากขึ้น

"ขอเป็นกำลังใจให้กองทัพปฏิบัติภารกิจ ด้วยความอดทน และเข้าใจถึงการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนให้มากขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะงานด้านความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกับการเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนภายใต้กรอบกฎหมายบ้านเมือง"พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำ ขอให้ กองทัพดำรงความมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติเคียงข้างประชาชนต่อไป พร้อมทั้งขอขอบคุณภาคประชาชน ที่เข้าใจการทำงานของกองทัพและสนับสนุนให้ความร่วมมือมาโดยตลอด เป็นผลให้ปัญหาสำคัญต่างๆของชาติได้รับการแก้ไขร่วมกันด้วยดี ประเทศสามารถเดินหน้าอย่างสงบ มั่นคงต่อเนื่องตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา