posttoday

"บิ๊กตู่"เหนียมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร.ขอให้ใจเย็นๆ

18 มิถุนายน 2562

"ประยุทธ์"ยอมรับไม่สันทัดงานการเมืองแต่ประสบการณ์ 5 ปีการันตีมีผลงานวอนฝ่ายการเมืองอย่ากังวลสมัยสอง

"ประยุทธ์"ยอมรับไม่สันทัดงานการเมืองแต่ประสบการณ์ 5 ปีการันตีมีผลงาน วอนฝ่ายการเมืองอย่ากังวลสมัยสอง

18 มิ.ย. 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงข้อเสนอจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้พิจารณาแล้วหรือยังว่า "ผมก็ปรึกษาฝ่ายกฎหมายอยู่ ขอให้ใจเย็นๆกำลังให้ดูว่าเหมาะสมหรือไม่" พร้อมยืนยันว่า แม้ตนจะถูกมองว่าไม่สันทัดทางการเมือง แต่ตนก็ทำงานมาแล้ว 5 ปี เป็นงานการเมืองทั้งนั้น อาจจะมีดีบ้างไม่ดีบ้าง ตนก็ยอมรับ แต่ก็ต้องดำเนินการต่อไป

"การที่ผมได้เป็นนายกฯ ครั้งที่สอง อยากเรียนว่าไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้การเอาใจใส่ ผมก็ไม่เคยเป็นนายกฯมาก่อน แต่วันนี้ก็พูดไม่ได้แล้วเพราะเป็นมา 5 ปีแล้วและไม่ใช่ว่ามาจากพลเรือนหรือทหารจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ วันนี้ผมถือว่าผมเองก็แก้ได้เยอะ ผมไม่เหนื่อยในการทำงาน แต่เหนื่อยในการทำความเข้าใจมากกว่า ผมรับฟังความคิดเห็นประชาชนทุกคน รวมถึงนักศึกษา แต่อยากให้มาร่วมมือกัน ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างก็ไปได้หมด แต่ถ้ามัวแต่บ่อนทำลายกันคิดแต่ผลประโยชน์ทางการเมืองกันอย่างเดียวมันก็ไปไม่ได้”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือร่วมกับครม.และ คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจสั่งการอย่างเดียวแม้แต่คำสั่งมาตรา44 ก็ต้องเรียกประชุมคสช. และฟังความคิดเห็นจากรัฐบาลและฝ่ายปฏิบัติทุกอย่าง หลายคนวิจารณ์ว่าวันข้างหน้าไม่มีคำสั่งมาตรา44 แล้วรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ขอถามกลับว่าแล้วทำไมรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ถ้าอยู่ด้วยความรักความสามัคคี มีความเข้าใจซึ่งกันและกันเคารพกฎหมาย ทุกอย่างทำเพื่อชาติบ้านเมือง แต่เรื่องแบบนี้เราปิดกั้นใครไม่ได้เพราะทุกคนบอกว่าเป็นประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง แล้วเราจะไปทำอะไรเขาได้นอกจากมาตรการทางกฎหมายและตรวจสอบคุณสมบัติ

เมื่อถามว่า วันนี้ถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองเฉพาะกิจหรือนักการเมืองอาชีพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นักการเมืองเฉพาะกิจกับนักการเมืองอาชีพมันต่างกันตรงไหน ไม่ต่างกันเลย เพราะตนก็เป็นพล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิมแล้ว แต่ว่าจะมีหน้าที่และทำหน้าที่อย่างไร โอกาสที่จะให้ทำหน้าที่มีแค่ไหนอย่างไรอยากขอว่า อย่าไปพูดกันเลยว่าเอื้อตรงนั้นตรงนี้อยากจะอยู่ต่อหรืออะไรต่างๆ เป็นวาทกรรมที่พูดกันมาตลอด อยากจะขอร้องว่าในการประชุมสภาหรือการประชุมร่วมรัฐสภาควรจะลดเรื่องเหล่านี้ลงไปบ้าง ต้องมองว่าปัญหาประเทศชาติอยู่ตรงไหนประชาชนต้องการอะไร สิ่งที่ทำไปแล้วไม่ใช่ทั้งหมดไม่ดีเลยเพราะถ้าไม่ดีจะอยู่มาได้ถึง 5 ปีหรือ มันก็ดีบ้าง

“อย่ากังวลเรื่องการเป็นนายกฯ หรือการเป็นรัฐบาลของผม วันนี้ประเทศต้องการรัฐบาล ทุกประเทศเฝ้าคอยอยู่แต่เมื่อทำงานไปแล้วดีหรือไม่ดีมันก็มีวิธีการทางประชาธิปไตยในการตรวจสอบอยู่ ผมคิดว่านักการเมือง ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ เข้าใจตรงจุดนี้ ผลประโยชน์ของพรรคอะไรต่างๆในเรื่องคะแนนเสียงก็เป็นอีกเรื่อง แต่เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ต้องเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง"นายกฯกล่าว

พร้อมขอร้องบรรดานักการเมืองทั้งหลายว่า ตนให้เกียรติทุกท่านเสมอเพราะถือว่าให้เกียรติประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามาดังนั้นทุกคนก็ต้องเคารพกฎเกณฑ์กติกาที่ตนพูดมาด้วย ต้องไว้วางใจกันพอสมควรแล้วค่อยดูกันต่อไป ถ้าเขาไม่ทำจะว่าอย่างไรกันต่อไป ก็ตรวจสอบกันแก้ปัญหากันไป ปรับครม.กันไป มันก็เป็นแบบนี้มาตลอด แต่ยืนยันว่าไม่ต้องมีการใช้จ่ายในการเป็นรัฐมนตรีกับตนเข้าใจไหม ไม่มีเรื่องนี้ เคยมีคนพูด แต่จริงไม่จริงผมไม่รู้ แต่เมื่อก่อนเห็นมีพูดกัน ใครอยากเป็นก็ว่าไปเขาพูดกันในสื่อ อย่ามาหาว่าตนพูด