posttoday

"เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา"ประยุทธ์"ขาดคุณสมบัติได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

14 มิถุนายน 2562

"ร.ต.อ.เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

"ร.ต.อ.เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกเอกสารแสดงความเห็นกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากศาลฎีกาที่ 3578/2560 ลงวันที่ 1มิ.ย.62 กรณีอัยการยื่นฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นจำเลยในความผิดตามประกาศ คสช. ซึ่งนายสมบัติไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจเรียกให้ไปรายงานตัว โดยในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า คสช.มีอำนาจเพราะคสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจึงมีอำนาจดังกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาว่า การยึดอำนาจการปกครองเป็นผลสำเร็จแล้ว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จึงเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ย่อมมีอำนาจออกประกาศและคำสั่ง โดยศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้จำเลยหรือนายสมบัติมารายงานตัวคสช.ภายในวันที่ 24พ.ค.2557เวลา 16.00น.โดยกำหนดโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง บัญญัติ ว่า ผู้ใดทราบคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฏหมายให้ไว้ ไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีเหตุอันควร จึงมีความผิด ซึ่งคำพิพากษาของศาลฎีกา เป็นศาลสูงสุดและเหตุที่ลงโทษจำเลยเพราะศาลฎีกาพิจารณาแล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นหัวหน้าคสช.เป็นเจ้าพนักงาน จึงมีอำนาจเรียกจำเลยมารายงานตัวดังกล่าว จึงสรุปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี

"เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา"ประยุทธ์"ขาดคุณสมบัติได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

"เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา"ประยุทธ์"ขาดคุณสมบัติได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ

"เฉลิม"ยกคำพิพากษาศาลฎีกา"ประยุทธ์"ขาดคุณสมบัติได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ