posttoday

"ศรีสุวรรณ" ร้อง ป.ป.ช. กก.สรรหา ส.ว.เป็น ส.ว.เอง เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน

14 มิถุนายน 2562

“ศรีสุวรรณ” ยื่น ปปช. สอบ กรณีกรรมการสรรหาส.ว.เป็น ส.ว.เอง ชี้ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน-ผิดมาตรฐานจริยธรรม ซัด “วิษณุ” ไม่ประกาศรายชื่อขัดเจตนารมณ์ รธน. เล็งเอาผิดเลขาฯครม.-ฝ่ายอารักษ์ ไม่นำคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหาประกาศราชกิจจานุเบกษา

“ศรีสุวรรณ” ยื่น ปปช. สอบ กรณีกรรมการสรรหาส.ว.เป็น ส.ว.เอง ชี้ เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน-ผิดมาตรฐานจริยธรรม ซัด “วิษณุ” ไม่ประกาศรายชื่อขัดเจตนารมณ์ รธน. เล็งเอาผิดเลขาฯครม.-ฝ่ายอารักษ์ ไม่นำคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหาประกาศราชกิจจานุเบกษา

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ บ่ายวันนี้ (14 มิ.ย.) เพื่อให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิดคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เพราะรับไม่ได้กับรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ทั้ง 10 คน  และคิดว่า สังคมก็รับไม่ได้เช่นกัน

“เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติไว้ชัดเจน ไม่ควรมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน  แต่คนที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการสรรหาส่วนใหญ่มีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี  ที่ยังเป็นสมาชิก คสช.อยู่  แต่กลับมีการมาดำเนินการคัดเลือกตัวเองให้ไปเป็น ส.ว.  นอกจากจะขัดรัฐธรรมนูญเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ขัดต่อประมวลจริยธรรม ตามมาตรฐานจริยธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดค่อนข้างจะร้ายแรง” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการกระทำของคณะกรรมการสรรหาเข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมข้อ 7 ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ  เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ  และข้อ 9 ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ 

“เรื่องจริยธรรมเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องเสนอศาลฎีกาให้วินิจฉัย และลงโทษตามกฎหมายต่อไป  ดังนั้น  จะปล่อยให้เรื่องนี้หายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่งไม่ได้  และเรื่องนี้ควรจะเป็นบรรทัดฐานของสังคม  เพื่อไม่ให้คนพวกนี้ย่ามใจ และไม่สนใจกระแสของสังคมจนมีการใช้อำนาจอย่างนี้อีก” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า  การที่นายวิษณุออกมาพูดว่า  กลัวว่าหากเปิดเผยรายชื่อตั้งแต่แรก  อาจจะทำให้เกิดการวิ่งเต้น  และเป็นเรื่องที่ประชาชนไม่จำเป็นต้องรู้นั้น   คิดว่านายวิษณุอาจจะเข้าใจผิด  หรืออ่านกฎหมายไม่ครบ เพราะการประกาศรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ตามคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562  มีความจำเป็น  เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 269 อนุมาตรา 1 เขียน ไว้ชัดเจน  ว่า คสช.ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ  มีความรู้ ความสามารถ และมีความเป็นกลางทางการเมือง  แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่ คสช.แต่งตั้งจะมีความทรงคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถ และมีความเป็นกลางทางการเมือง  ประชาชนก็ต้องมาช่วยกันดู

นายศรีสุวรรณ  กล่าวว่า เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และผู้อำนวยการฝ่ายอารักษ์ ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  มีหน้าที่ในการทำประกาศ คสช.ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา  แต่การที่ไม่ดำเนินการไปลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา  ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่  เพราะวัตถุประสงค์ของการนำเอกสารราชการประกาศในราชกิจจานุเบกษา มี 3 ประการ คือ 1.เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดว่าต้องประกาศ  2.เป็นเรื่องที่ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารกำหนดว่าจะต้องประกาศ  และ 3.เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ประชาชนควรจะทราบ  แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดก็ต้องนำไปประกาศ 

“ผมจะไปร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และผู้อำนวยการฝ่ายอารักษ์ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต่อไป และหลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.  หากผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ป.ป.ช.ยังไม่ดำเนินการ ผมก็สามารถใช้สิทธิในการไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้อีก” นายศรีสุวรรณ กล่าว