posttoday

"บวรศักดิ์"เตือนส.ส.ศึกษารธน.มาตรา144 ชี้ทำไม่รอบคอบเสี่ยงครม.พ้นเก้าอี้

15 พฤษภาคม 2562

"บวรศักดิ์ อุวรรณโณ"เตือน ส.ส. ให้ศึกษา รัฐธรรมนูญมาตรา 144 การอนุมัติงบประมาณให้ชัดเจน หากทำไม่รอบคอบ ครม.อาจต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

"บวรศักดิ์ อุวรรณโณ"เตือน ส.ส. ให้ศึกษา รัฐธรรมนูญมาตรา 144 การอนุมัติงบประมาณให้ชัดเจน หากทำไม่รอบคอบ ครม.อาจต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

เมื่อวันที่ 15 พ.ค.62 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้บรรยายเรื่อง “บทบาทและหน้าที่ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน” ในการสัมมนาพรรคพลังประชารัฐ ที่ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา จังหวัดชลบุรี 

นายบวรศักดิ์ กล่าวแสดงความยินดีกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้มาทำหน้าที่ ส.ส. ชุดแรกตามรัฐธรรมนูญปี2560  พร้อมระบุสาเหตุที่ตัดสินใจมาบรรยายพิเศษ เนื่องจากได้รับการทาบทามจากนายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รองหัวหน้าพรรค รวมถึงคนคุ้นเคยอีกหลายคนในพรรคที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า หัวข้อ บทบาทหน้าที่ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่ ส.ส.ทุกคนทราบดี ว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร หน้าที่อันดับแรก คือการทำหน้าผู้แทนของประชาชน เพราะทุกคนเป็นตัวแทนของเสียงที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำหน้าที่ ที่มาระบอบประชาธิปไตย  โดยกล่าวอ้างคำนักวิชาการระดับโลก อมาตยา เซ็น ที่ศึกษาที่ว่า ความอดอยากเกิดขึ้นได้ทุกระบอบการบริหารการปกครอง แต่การอดตายจะเกิดขึ้นในระบอบเผด็จการ

นายบวรศักดิ์ ย้ำว่า ในระบอบประชาธิปไตย อดอยากได้แต่จะไม่อดตาย  เพราะผู้ที่มีหน้าที่ในบ้านเมือง ต้องทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อน  หน้าที่อันดับสอง คือการออกกฎหมาย หน้าที่ที่3 ของส.ส. คือการอนุมัติการงบประมาณในการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังมากที่สุด ขอให้ทุกคนได้ไปศึกษารัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ให้ชัดเจน เพราะหากทำไม่รอบคอบ คณะรัฐมนตรีอาจต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ  รวมถึงรัฐธรรมนูญมาตรานี้จะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต ต้องคืนเงินเดือนพร้อมดอกเบี้ยย้อนหลังด้วย

สำหรับมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับ 2560 ระบุว่า

ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะแปรญัตติเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการมิได้ แต่อาจแปรญัตติในทางลดหรือตัดทอนรายจ่ายซึ่งมิใช่รายจ่ายตามข้อผูกพันอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(1) เงินส่งใช้ต้นเงินกู้

(2) ดอกเบี้ยเงินกู้

(3) เงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย

ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือคณะกรรมาธิการ การเสนอการแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้

ในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา เห็นว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคสอง ให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา และศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นดังกล่าว ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการกระท าที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคสอง ให้การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำดังกล่าวเป็นอันสิ้นผล ถ้าผู้กระทำการดังกล่าวเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาให้ผู้กระทำการนั้นสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น แต่ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กระทำการหรืออนุมัติให้กระทำการหรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้วแต่มิได้สั่งยับยั้ง ให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้อยู่ในที่ประชุมในขณะที่มีมติและให้ผู้กระทำการดังกล่าวต้องรับผิดชดใช้เงินนั้นคืนพร้อมด้วยดอกเบี้ย

เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจัดทำโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณโดยรู้ว่ามีการดำเนินการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็นหนังสือหรือมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบ ให้พ้นจากความรับผิด

การเรียกเงินคืนตามวรรคสามหรือวรรคสี่ ให้กระทำได้ภายในยี่สิบปีนับแต่วันที่มีการจัดสรรงบประมาณนั้น

ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้รับแจ้งตามวรรคสี่ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการสอบสวนเป็นทางลับโดยพลัน หากเห็นว่ากรณีมีมูล ให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดำเนินการต่อไปตามวรรคสาม และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและศาลรัฐธรรมนูญหรือบุคคลใดจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้แจ้งมิได้