posttoday

อนาคตใหม่ไม่เสนอชื่อ "ธนาธร" เป็นนายกฯ ยก 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล

25 มีนาคม 2562

พรรคอนาคตใหม่แถลง 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล "แก้รธน.-ล้างมรดกคสช.-ปฏิรูปกองทัพ" ไม่เสนอชื่อ "ธนาธร"เป็นนายกฯ

พรรคอนาคตใหม่แถลง 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล "แก้รธน.-ล้างมรดกคสช.-ปฏิรูปกองทัพ" ไม่เสนอชื่อ "ธนาธร"เป็นนายกฯ

เมื่อวันที่25 มี.ค. 62เวลา 16.28น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงท่าทีของพรรคต่อผลการเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงก้าวแรกของเราเท่านั้น แต่อนาคตเราจะสร้างพรรคให้แข็งแกร่งและยืนหยัดในประชาธิปไตย โดยพรรคอนาคตมีจุดยืน 4 ข้อต่อการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ประกอบด้วย ข้อที่ 1.หลักการจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่านายธนาธร พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อนายธนาธร เป็นนายกฯ เพราะเราต้องการยืนยันวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และเราจะไม่เอาเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปสู่การที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

"พรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายกฯต้องมาจากพรรคที่ได้จำนวนสส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง นี่คือการยืนยันในหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง" นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า ข้อที่ 2.กลไกในการปิดสวิตซ์สว. พรรคยังยืนยันว่าข้อเสนอนี้ยังเป็นไปได้ พรรคที่นำเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ มีอยู่ 3 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และ พรรคประชาชนปฏิรูป ดังนั้น ถ้าเรารวมพรรคการเมืองเหล่านี้จะได้ที่นั่งประมาณ 122 ที่นั่ง ซึ่งไม่ถึงจำนวน 124 ที่นั่ง ดังนั้น การรวมเสียงของพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช.ให้ได้ 376 เสียงเพื่อปิดสวิตซ์สว.ยังเป็นไปได้ จึงขอเชิญชวนนักการเมืองทุกคนที่ยืนยันในหลักการประชาธิปไตยที่เชื่อว่าสส. คือ ตัวแทนของประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชน

“นี่เป็นวิธีที่สันติที่สุดที่จะทำให้การเมืองหลังการเลือกตั้งไม่วุ่นวาย ถ้าเราเปิดสวิตซ์สว.และปล่อยให้สว.เข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกฯ ประเทศไทยอาจจะเดินทางไปสู่ความขัดแย้งและความวุ่นวายได้” นายธนาธร กล่าว

สำหรับข้อเสนอของพรรคอีก 2 ข้อ นายปิยบุตร กล่าวว่า ข้อที่ 3.เงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล พรรคอนาคตใหม่พยายามสร้างมาตรฐานทางการเมืองใหม่ ดังนั้น การร่วมรัฐบาลต้องมีข้อตกลงร่วมกัน แต่ละพรรคต้องเสนอว่าถ้าจะไปร่วมรัฐบาลกันเราจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง โดยไม่ควรเกิดจากการต่อรองเพื่อตำแหน่งรัฐมนตรีเท่านั้น เราวางเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล 3 ข้อ ได้แก่

1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 เพิ่มเติมหมวดว่าด้วยการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยให้มีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และให้สภาร่างฯชุดนี้จัดทำรัฐธรรมนูญ และไปจบที่การออกเสียงประชามติ เหมือนกับที่เคยจัดทำรัฐธรรมนูญพ.ศ.2540

2.ต้องเข้าไปจัดการมรดกบาปของคสช.ไม่ว่าจะเป็นประกาศ คำสั่งของคสช. แผนปฏิรูปและแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งจะใช้วิธีการด้วยการปลดมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่รับรองการใช้อำนาจของคสช.

3.ต้องปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ถ้ากองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน การรัฐประหารจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย

นายปิยบุตร กล่าวว่า ข้อที่ 4 ขอเรียกร้องของพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยพรรคขอให้กกต.เปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คะแนนโหวตของผู้สมัครแต่ละคน จำนวนบัตรที่พิมพ์ และจำนวนบัตรที่ใช้ลงคะแนน โดยขอให้เปิดเผยเป็นรายหน่วยเลือกตั้ง เพื่อแสดงความโปร่งใสของกกต. ดังนั้น ในวันที่ 26 มี.ค.จะไปยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อกกต.อย่างเป็นทางการ

นายปิยบุตร กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา โดยเฉพาะกทม.พบว่ามี 11 เขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครที่ชนะพรรคอนาคตใหม่ด้วยคะแนนหลักร้อยหรือหลักพัน ซึ่งเป็นคะแนนที่ไม่มาก และจะยื่นไปให้กกต.พิจารณว่าต้องนับคะแนนใหม่หรือไม่ ส่วนต่างจังหวัดเราได้รับเรื่อง 10 เขตเลือกตั้ง

อนาคตใหม่ไม่เสนอชื่อ "ธนาธร" เป็นนายกฯ ยก 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล

ต่อมา นายธนาธร กล่าวว่า แคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้แสดงตัวชัดเจนว่าเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง และเป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อลำดับที่สองของพรรคเพื่อไทย กติกาการเลือกตั้งแบบนี้ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ตำแหน่งสส. น้ำหนักของเรา คือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.เป็นหลัก

“เราไม่อยากสร้างเงื่อนไขนำประเทศไทยไปสู่ทางตัน เราให้น้ำหนักกับการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.มากกว่า คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความตั้งใจจะเล่นอยู่ในกติกา ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ยอมรับ ถ้าพรรคเพื่อไทยส่งคุณหญิงสุดารัตน์เป็นแคนดิเดทนายกฯ หลังจากรวบรวมเสียงข้างมากได้”นายธนาธร กล่าว

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการตกลงรายละเอียดอะไรที่มากไปกว่าการเห็นตรงว่าภารกิจอันดับหนึ่ง คือ การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. ส่วนรายละเอียดที่เหลือไม่มีอะไรไปมากกว่านี้

“การหารือกับพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีการพูดถึงเก้าอี้นายกฯ ไม่มีการพูดถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่มีการพูดถึงกระทรวงและรายละเอียด โดยคุยกันเรื่องเดียวว่านี่เป็นช่วงเวลาของการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. ใจเย็นๆ นะครับทุกท่าน เพราะนี่เพิ่ง24ชั่วโมงหลังการเลือกตั้ง อย่างน้อยที่สุดหนึ่งอย่างที่เราเห็นตรงกันและเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สังคมต้องการ คือ การหยุดยั้งอำนาจของคสช.”นายธนาธร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยในการไปรวบรวมฝ่ายเสียงมาให้ได้ ส่วนเงื่อนไขของพรรคที่จะสามารถร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่นั้น การร่วมรัฐบาลของเรามีเงื่อนไข 3 ข้อดังกล่าว สำหรับการฟอร์มรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ตามประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา พรรคอันดับหนึ่งต้องได้ตั้งรัฐบาลก่อน การให้พรรคอันดับสองไปตั้งรัฐบาลแล้วอ้างว่าไม่มีกฎหมายข้อไหนกำหนด เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง

“พรรคพลังประชารัฐมีความพยายามจะพูดถึงคะแนนป็อบปูลาร์โหวต หรือคะแนนดิบทั้งประเทศที่พรรคพลังประชารัฐอาจจะได้อันดับที่หนึ่ง แต่ปัญหา คือ ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่ในระบบรัฐสภา การได้มาเป็นนายกฯต้องเป็นเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร หากคุณคิดคะแนนป็อบปูลาร์โหวต นั่นคือ การเลือกนายกฯโดยตรง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้ใช้ นายกฯประเทศไทยมาจากเสียงข้างมากของสภาฯ ไม่มีความชอบธรรมอะไรเหลือที่พรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาล”นายปิยบุตร กล่าว

อนาคตใหม่ไม่เสนอชื่อ "ธนาธร" เป็นนายกฯ ยก 3 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล