posttoday

พท.ลุยตั้งรัฐบาลสู้ 250 สว. ยันมี 300 เสียง

25 มีนาคม 2562

เพื่อไทย ขอลุยจัดตั้งรัฐบาลสู้ 250 สว. ยันมี 300 เสียง จับมือพรรคต้าน คสช.

เพื่อไทย ขอลุยจัดตั้งรัฐบาลสู้ 250 สว. ยันมี 300 เสียง จับมือพรรคต้าน คสช.
 
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายโภคิน พลกุล นายชัยเกษม นิติศิริ นายชูศักดิ์ ศิรินิล และนายชวลิต วิชยสุทธิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงท่าทีและอนาคตทางการเมือง หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ให้พรรคเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 แม้เราส่งผู้สมัคร ส.ส.เพียง 150 เขต หลังจากนี้เราจะเดินหน้าในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ซึ่งเคยพูดแล้วว่าพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 ถือเป็นผู้ได้ฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยคนที่เราจะร่วมด้วยก็จะยืนอยู่บนหลักการเดิม โดยจะร่วมกับพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ที่ผ่านมามีพรรคการเมืองที่ประกาศตัวชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจะดำเนินการตามเจตนารมณ์ของประชาชนและจะร่วมมือกับพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า  สำหรับพรรคเพื่อไทยมีตัวเลข ส.ส.เฉพาะเขต 137 ที่นั่ง ถือว่าเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนพรรคอันดับ 2 มีคะแนน 112 ที่นั่ง ดังนั้นเมื่อดูจากฉันทามติแล้วถือว่า เราได้รับการยอมรับตามประเพณีการปกครองตามที่เราเคยทำมาตลอด พรรคที่ได้รับฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนอันดับแรกมีที่นั่งในสภาสูงสุด จะต้องเป็นพรรคที่ได้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล

“หลังจากนี้ไปเราจะเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการที่จะประสานพรรคต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่จะให้ได้กว่า 300 เสียง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพรรคที่ประกาศตัวว่า ไม่อยากเห็นการสืบทอดอำนาจ แต่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจากชีวิตที่เป็นอยู่ตลอดกว่า 5 ปี ขณะนี้เท่าที่ดูมีพรรคพลังประชารัฐและพรรคของคุณสุเทพเท่านั้นที่ให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์หัวหน้าพรรคคนเดิมเขาก็ประกาศไม่รับลุงตู่ ส่วนคนใหม่จะว่าอย่างไรก็ให้เขาว่ามา” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เจตนารมณ์ของประชาชนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นก็เชื่อว่า สว.ที่มาจากภาษีของประชาชนจำนวนพันกว่าล้านบาท ต้องให้สมกับที่ใช้เงินงบประมาณในการแต่งตั้งมา โดยคิดว่า สว.จะตัดสินใจเลือกให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ส่วนผลจากนี้จะเป็นอย่างไรก็จะแถลงให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ มีหลายพรรคการเมืองที่เห็นว่าเจตนารมณ์ของประชาชนที่ออกมาจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างสุดความสามารถ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการจับมือกับพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาล ยังยืนยันเสนอแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะเป็นการร่วมมือกันของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราจะยึดเจตจำนงในความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เราจะสร้างให้ร่วมมือกันและการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตข้างหน้าเป็นไปเพื่อตอบสนองเจตนารมณ์ประชาชน อะไรคือทางออกที่ทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยร่วมมือกันได้อย่างดีที่สุดและทำให้ประเทศหลุดพ้นจากสภาพเดิมๆที่เป็นอยู่ เราจะทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด

“จากนี้ไปเราจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อประสานพรรคที่ไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เราก็จะยึดมั่นในเจตจำนงของพี่น้องประชาชนที่อยากเห็นสภาพสังคมเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลังจากนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนคงจะได้เห็นท่าของพรรคการเมืองต่างๆออกมาเป็นขั้นเป็นตอน โดยเราจะมีเวลาหารือกันแล้วมองว่าอะไรคือประโยชน์ร่วมที่พี่น้องประชาชนต้องการมากที่สุดเราก็จะดำเนินการตามนั้น” เลขาธิการพรรค กล่าว

เมื่อถามว่า จะคุยกับพรรคอนาคตใหม่อย่างไรที่เคยบอกว่าจะไม่ยกมือให้กับนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็น ส.ส.  นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเลย วันนี้เป้าหมายเราคือทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่จากเดิม สิ่งนี้คือสิ่งที่เราจะยึดมั่น เราเชื่อมั่นว่าถ้าเรายึดมั่นในผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนได้แล้ว เราไม่อยากเห็นรัฐบาลที่ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของตน เราจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่รักษาประโยชน์ของประชาชนได้

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ต้องกังวลไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ในส่วนที่ได้พูดกันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องคุยกัน และในกติกาที่ถูกทำให้ผลการเลือกตั้งเป็นแบบนี้ มีสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลในการเลือกตั้งที่ออกมาตามสื่อแยกแยะไปหมด ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าไม่อยู่ในวิสัยปกติ ทั้งกติกา ทั้งการดำเนินงาน และการควบคุมการเลือกตั้ง โดยในส่วนของพรรคเอง พรรครวบรวมข้อมูลไว้เหมือนกัน โดยจะแถลงเป็นระยะๆในส่วนของความไม่ถูกต้อง

“พรรคเพื่อไทยยืนยันเราจะไม่ทำอะไรให้ประชาชนผิดหวัง แต่ทำในเจตนารมณ์ตามประสงค์และต้องการตามที่ฝากความหวังไว้ เราจะพูดคุยกันกับพรรคร่วมในประเด็นเรื่องผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนผลประโยชน์ของพรรคจะเป็นรอง เราร่วมกันที่จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าด้วยความสงบสุขและมีเศรษฐกิจอนาคตที่ดี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่แก้ไข ตอบสนองสิ่งที่ประชาชนปรารถนาให้ได้ และเป็นการเริ่มต้นที่จะทำบริบทประเทศให้เข้าสู่ประชาธิปไตย และเข้าสู่กติกาที่เป็นสากลเราต้องเอาส่วนร่วมตั้งไว้ ทั้งนี้เรื่องของการประสานต่อรองจะไม่ทำการต่อรองกันกลางอากาศ

ขณะที่ นายโภคิน กล่าวว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เราต้องฝ่ากฎเกณฑ์กติกา กระบวนการทั้งหลายที่เห็นชัดว่าไม่ได้เป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรมมากนัก ซึ่งท่ามกลางความยากลำบากเหล่านี้ก็มีนักการเมืองประกาศจุดยืนชัดเจนว่า ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ เท่าที่ดูคราวๆมีมากกว่า 300 เสียง ดังนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าที่นั่งจำนวน 500 เสียง หากมีมากกว่า 300 เสียงยืนยันเช่นนั้นก็แสดงให้เห็นเจตจำนงให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยไม่เห็นการสืบทอดอำนาจต่อไป

พรรคเพื่อไทยเคยแถลงไปแล้วว่าไม่อยากเป็นผู้มีอำนาจ แต่ที่เราจะทำนั้นเราทำตามฉันทามติ และเมื่อเป็นพรรคอันดับ 1 เราก็จะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปจนถึงที่สุด เพื่อตอบประชาชนและพรรคที่ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ

ขณะที่กติกาของเราไม่ได้ดูว่าใครได้เสียงประชาชนมากกว่ากันหรือป๊อปปูลาร์โหวต แต่ดูพรรคว่าใครได้ที่นั่ง ส.ส.มากกว่ากัน โดยการจะเลือกนายกรัฐมนตรีก็เลือกที่จำนวน ส.ส. โดยครั้งนี้ให้รวมกับเสียง สว.อีก 250 เสียง เราต้องฟังกติกา เพราะถ้าเราเอาป๊อปปูลาร์โหวตมาพูดกันก็ไม่จบ วันนี้กติกาท่านเขียนเองมาอย่างนี้ว่า คนเลือกนายกฯไม่ใช่ป๊อปปูล่าร์โหวต แต่เป็นป๊อปปูลาร์โหวตว่าเลือก ส.ส.ได้เท่าไหร่ แล้ว ส.ส.จึงไปเลือกนายกรัฐมนตรี