posttoday

เผยชีวิต "แกนนำพันธมิตร" ในคุก-"ธาริต" ขออโหสิกรรม "สุริยะใส"

10 มีนาคม 2562

รักษ์ ปักธงไทย เผยชีวิตแกนนำพันธมิตรภายในเรือนจำหลังถูกศาลตัดสินจำคุกคดีบุกทำเนียบ-เผย ธาริต ขออโหสิกรรม

รักษ์ ปักธงไทย เผยชีวิตแกนนำพันธมิตรภายในเรือนจำหลังถูกศาลตัดสินจำคุกคดีบุกทำเนียบ-เผย ธาริต ขออโหสิกรรม

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.  เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง  นักวิชาการและนักจัดรายการชื่อดัง โพสต์บทความของ รักษ์ ปักธงไทย ที่ได้เดินทางไปเยี่ยมแกนพันธมิตรที่ตอนนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ว่า ไปเยี่ยมแกนนำพันธมิตรที่เรือนจำฯ หลายหนแล้ว พบว่าทุกท่านปรับตัวได้ดีหลังใช้ชีวิตในเรือนจำมาเกือบเดือน แกนนำทั้งหมดพักในแดนแรกรับก่อนจะแยกย้ายไปในสัปดาห์หน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะได้อยู่แดนคนชรา เว้นแต่สุริยะใสไปแดนอื่นยังไม่แน่ชัดว่าที่ไหนแน่

แต่ที่แน่ๆเหล่าแกนนำไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรเลย ยังมีผ้าห่ม 3 ผืนเช่นนักโทษทุกคน ผืนแรกปูนอน ผืนสองม้วนหนุนหัว ผืนสามห่ม ผ้าก็แสนสั้น และแคบ ห่มอกขาโผล่ ห่มขาอกเย็น เป็นอย่างนี้ ส่วนผมก็ตัดสั้นเกรียน สวมเสื้อคอกลมแขนสั้นสีส้มซีด กับกางเกงสีเดียวกันขาสั้นเอวยางยืด...ดูสภาพโดยรวมก็คือ นักโทษชาย

ทุกคนบอกหนักแน่น ให้ย้อนกลับไป ก็ยังยืนยันที่จะทำอย่างนั้นในวันนั้น เพื่อชาติ ศาสนา และสถาบันอันเป็นที่รัก และไม่หนีคดีเหมือน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา”

“8 เดือน” ในคดีแรก ยังมีอีกหลายคดีจ่อคิวรอ

“ลุงจำลอง” วัย 83 ปี ชราแล้ว เจ็บออดๆ แอดๆ แต่มีพลังบวกในตัวเองมากมาย สู้ไม่ถอย วันแรกๆ มีอาการปวดท้อง ต่อมาก็ดีขึ้น ลุงบอกว่า ยามศึกเราเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องปฐพีที่รัก ยามสงบเราก็เป็นพลเมืองที่ดี ยามมีศัตรูมาราวีบ้านเมืองเราออกไปกับกองทัพธรรม นอนกับถนนเหมือนหมาจรจัด สุดท้ายเราก็มาอยู่ในคุก เป็นนักโทษ เรายอมรับในสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ทำ

สนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70 ปี ไม่ได้อยู่ที่เดียวกับห้าแกนนำพันธมิตร เจอกันที่ศาลเมื่อวันก่อน สุขภาพทั่วไปดี แต่ดวงตาข้างหนึ่งไม่ดีนัก มองอะไรได้เลือนราง ต้องเทียวมาหาหมอตาสม่ำเสมอ แกนนำคนนี้ก็อดทนไม่เบา คำน้อยไม่ปริปาก ก้มหน้าก้มตา ใช้ชีวิตปกติในเรือนจำ อ่านหนังสือ สอนหนังสือ ให้ทุกคน ทุกวัน

ลุงพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี ต้องจากมูลนิธิเด็กที่สร้างขึ้นมาด้วยรัก ทิ้งภรรยาที่ชราแล้วกับเด็กน้อยหลายสิบคนเดียวดาย ผมหางม้าที่เคยยาวเป็นเอกลักษณ์ถูกตัดไถเกรียน ผมขาวโพลน ใช้เวลาส่วนใหญ่ในเรือนจำกับการตื่น อาบน้ำ กินข้าว สวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนหนังสือ อ่านหนังสือ เรียนโยคะ วนอย่างนี้ทุกวัน

อาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี ผ่ายผอมมาก ร่างกายไม่สู้จะดี แต่ก็นั่งสมาธิ เรียนโยคะเช่นกัน คนนี้พูดน้อย และน้อยลงในที่สุด ถามอะไรก็ไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม มีภรรยา “พี่หน่อย” ซึ่งก็ป่วยกระเสาะกระแสะมาเยี่ยมไม่เว้นวาง ค่อยอุ่นใจคลายร้อน

ลุงสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี คนนี้ห้าวสุด ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่กล้ว ไม่ท้อ โอภาปราศรัยคึกคักลื่นไหล เล่าเรื่องราวในเรือนจำสนุกสนาน บิวตี้ฟูล มายด์ เหลือเกิน ส่งพลังบวกให้คนภายนอกที่ไปเยี่ยมเยียนอย่างที่สุด

และ สุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี สูญเสียการงานเป็นอาจารย์ สูญเสียลำดับที่ 10 ในบัญชีรายชื่อพรรครวมพลังฯ แต่เขาก็หาได้อาลัยอาวรณ์ไม่ เขาเป็นนักสู้ ยังอารมณ์ดี เข้มแข็ง เป็นคนเดียวที่อ้วนท้วน สงสัยชอบอาหารในเรือนจำ 555

น้องชายคนนี้เล่าให้ฟังว่า ในแดนที่พวกเขาอยู่มีด้วยกัน 70 คน คละเคล้าอายุกันไป ใส่ชุดแบบเดียวกัน ตัดผมสั้นเกรียนเหมือนกัน ไม่รู้ใครเป็นใครในห้องที่ไม่กว้างใหญ่นัก ก็ถือว่าแออัดพอควร

วันหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือ อยู่ดีๆ ก็มีชายคนหนึ่งเคลื่อนกายเข้ามาหา น้องใสเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเต็มตาว่าคือ “ธาริต” คนที่ชงคดี คนที่ทำให้ทุกคนต้องมารวมกันอยู่ในนี้ ที่ “คุก”

ธาริตในชุดส้มซีดกรากเข้ามาหาสุริยะใส พูดเบาเสียงงึมงำในลำคอ “กรรมใดที่ก่อไว้ขอให้อโหสิกรรมต่อกันนะครับ” พร้อมพนมมือ

สุริยะใสยิ้มกว้าง ลุงๆ ทุกคนที่นั่งล้อมวงอ่านหนังสือก่อนไปสวดมนต์ก็หันมามอง และยิ้มให้ “ธาริต” อย่างไม่ถือสา แต่ก็มีเพียงรอยยิ้ม ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา “ยิ้ม” สำคัญกว่า “คำพูด” ในแดนนั้น และ ยามนี้

สำหรับแกนพันธมิตรที่ถูกศาลฎีกา สั่งจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญาคดีบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 2551

ที่มา : https://www.facebook.com/shares/view?id=2156259521131919&av=100001638406698